
เราใช้เวลาในการตกหลุมรักเพียงชั่วครู่
แต่กลับใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการลืมเลือน
— หากผู้คนเปรียบรักเป็นดั่งสิ่งวิเศษ
ที่แสนมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่
ถ้าอย่างนั้นฉันคงเป็นเพียงมนุษย์คนเดียวบนโลกที่เปรียบรักเป็นดั่งคันสรและลูกธนู
ดุจในสงครามและในสมรภูมิรบ
ที่คับคล้ายจะมีเพียงแต่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้น
จึงจะอยู่รอด
.
.
ส่วนผู้อ่อนแอจะได้รับบทลงโทษคือ
คันสรของลูกธนูที่จะคอยทิ่มแทง
ไปยังหัวใจของผู้แพ้ในสงครามรักครั้งนี้
; เฉกเช่นเดียวกันกับฉัน
ทั้งหยดน้ำตาที่ไหลรินราวสายโลหิต
ทั้งหัวใจรักที่ชอกช้ำจนเกินเยียวยา
หรือจนแม้กระทั่งจิตวิญญานของชีวิต
ที่คล้ายจะถูกดึงออกไปจากร่างกาย
และวิญญานที่มันกำลังแหลกสลาย
กลายเป็นปุ๋ยผงและกลายเป็นเท้าธุลีดิน
ที่กำลังมอดไหม้ในอีกไม่ช้า
มันก็คงจะเป็นเช่นนี้กระมัง
—พอถึงคราวมีรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน
หากแต่พอถึงคราวไร้รัก...
น้ำต้มผักกลับกลายเป็นขมไปเสียได้
จนท้ายที่สุดแล้วความรัก
ที่เคยคิดว่าจะมีกันตลอดไป
กลับมลายสูญและหลงเหลือเพียงแค่เรื่องเล่า
ในความทรงจำ ณ กาลครั้งหนึ่งก็เท่านั้นเอง
บทสรุปสุุุุุุุุดท้าย
ในหน้าไดอารี่ของชีวิตที่ได้เรียนรู้คือ
คนบางคนมีไว้เพียงแค่ให้ตกหลุมรัก
แต่ไม่ได้มีไว้เป็นคนรักสำหรับเธอเสมอไป..