
ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี
เราได้เข้าไปอ่านในเพจ Storylog
เมื่อไม่นานมานี้
เรารู้สึกอย่างหนึ่งเมื่อได้อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้าย หากพูดตามจริงแล้วลึกๆเราก็รู้สึกใจหายเหมือนกันนะ มันเหมือนกับว่า safe zone ของเรามันกำลังจะเลือนหายไป
และก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราได้เข้ามาอ่านหรือถักทอเรื่องราวต่างๆนาๆทั้งเรื่องที่อาจดูไร้สาระบ้างหรือเรื่องที่ดูน่าเศร้าในแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า Storylog นี้
ไม่รู้เหมือนกันพอรู้ตัวอีกที
เราก็หลงเข้ามาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
ทั้งเรื่องราว
และผู้คนใน Storylog
พวกคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าพวกคุณเป็นเหมือนกับแรงบันดาลใจ เหมือนกับที่พักพิงใจในวันที่เรารู้สึกอ่อนล้า
เรามักจะรู้จักพวกคุณผ่านการขีดเขียน
เล่าเรื่องราวต่างๆผ่านตัวหนังสือ
ที่แม้จะดูธรรมดา
แต่ไม่น่าเชื่อว่าทุกถ้อยคำ.. ทุกๆการถักทอของเรื่องราวเหล่านั้น ที่ทั้งอาจจะสุข อาจจะเศร้าปะปนกันไปบ้างตามรสชาติชีวิตที่หลากหลาย
แต่เชื่อเถอะว่าเรารู้สึกขอบคุณ
และรู้สึกดีใจมากเหลือเกินที่ในกาลครั้งหนึ่ง
เราได้มาพบเจอกับพวกคุณ
ถึงแม้แค่เพียงผ่านตัวหนังสือก็็็็ตาม
สุดท้ายนี้เราอยากจะขอบคุณอะไรก็ตามที่่่่่่่่่ทำให้เราได้รู้จักกับ Storylog และได้พบเจอกับผู้คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวที่มีชีวิตและมีคุณค่า
และท้ายสุดนี้ที่ไม่อาจจะไม่กล่าวถึงคือ
ทีมงาน Storylog ทุกท่าน
เราอยากจะขอบคุณทีมงาน Storylog ทุกท่าน
ที่ได้กำเนิด Storylog ดีๆมีคุณภาพมาให้เราได้รู้จักและได้ขีดเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆมากมาย
ขอบคุณมากจริงๆนะคะ
ไม่รู้ว่าทีมงาน Storylog
จะเห็นหรือได้อ่านหรือไม่ก็ดี
แต่อยากจะบอกว่าขอบคุณมากจริงๆนะคะ
เพราะนอกจากบ้านแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เป็นที่พักพิงหัวใจเราได้อย่างยอดเยี่ยมราวกับเป็นบ้านหลังที่สองของเราก็คือ
ณ Storylog แห่งนี้..
ปล. หากเป็นไปได้เราก็หวังแค่่่่ว่าบ้านหลังที่สองใน Storylog นี้จะไม่่จางหายไปไหน แต่่่่หากว่าในวันหนึ่่่่งทีี่บ้านหลังนี้ไม่่่่่อยู่แล้ว เราก็ขอแค่ว่าในวันหนึ่งเราจะกลับมาพบเจอกันใหม่นะ
Storylog