
ในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงปะปนกันในงาน
เสียงพูดคุยพบปะกันในงานดังขึ้นอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ต่างคนต่างพูดคุยตบไหล่กับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปีอย่างสนิทสนมเสมือนว่าวันเวลาพึ่งผ่านไป2หรือ3วัน
“เห้ยไอกิตตต~!”
เสียงตะโกนเรียกของไอป๊อปเพื่อนสนิทของผมดังขึ้น
ไอป๊อปเพื่อนสนิทผมสมัย ม.ปลาย นิสัยมันเป็นคนเฮฮาร่าเริงสนิทสนมกับคนง่าย ยิ้มเก่ง อัธยาศัยดีเลยไม่มีใครเลยที่จะไม่ชอบหรือไม่สนิทกับมันเพราะมันเข้าได้กับทุกคน
“ไม่ได้เจอกันนานหล่อขึ้นเยอะเลยนี่หว่าาาา”
มันชมผมพลางเอาแขนสะกิดติดตลก
“แล้วไอนั่นใหญ่ขึ้นป่าวหล่อแต่เล็กระวังไม่มีเมียนะเว้ย”
ไอเวรป๊อปพูดแซวผมด้วยมุกลามกก่อนที่จะมองที่เป้าผมแล้วทำหน้าล้อเลียน
“ไอเวรป๊อปไอนี่”
พูดจบไม่รีรอผมโบกหัวไอป๊อปเบาๆไป1ทีด้วยความหมั่นไส้พลางหัวเราะ
ผมกับป๊อปที่สนิทกันได้ขนาดนี้เพราะหลังจากจบ ม.ปลาย เราสองคนก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อยๆบ้างเป็นบางครั้งก็เลยไม่ได้เจอกันนานขนาดนั้น
ผมพูดคุยสัพเพเหระกับไอป๊อปไปอีกแปปนึงก่อนที่จะขอไปทักทายเพื่อนๆคนอื่นในงาน
ทุกคนใส่ชุดนักเรียนสมัย ม.ปลายที่มีปากกาเขียนอยู่เต็มเสื้อเป็นคำอวยพรต่างๆจากรุ่นน้องและรุ่นเดียวกันเอง
ทุกคนใส่ชุดนักเรียนตอนวันปัจฉิมนิเทศกันหมด
เป็นภาพที่น่าคิดถึงที่ทุกคนได้มารวมตัวกันอีกครั้งแม้เวลาจะผ่านไปแล้ว5ปี
ทุกคนอายุ22-23ปี มีบางคนหน้าตาเปลี่ยนไปหรือรูปร่างเปลี่ยนไปแต่ผมก็สามารถจำได้อย่างแม่นยำว่าใครเป็นใคร
ผมกวาดตามองหาร่างของบุคคลคนคนนึงอยู่
เป็นคนที่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผมตั้งตารออยากมางานนี้
ผมพยายามมองหาเท่าที่จะทำได้
‘งานนี้รายชื่อคนก็นัดไว้ครบนะหรือว่ามันยังไม่มาเนี่ย’
ผมคิดในใจพลางกวาดสายตามองหาไปด้วย
“มาแล้วค่าาาาาา”
เสียงดังขึ้นทางประตูทางเข้าเรียกความสนใจของทุกคน
ปรากฎร่างของหญิงสาวผมสีน้ำตาลยาวสลวยที่ถูกจัดอยู่ในทรงหางม้าย้อนยุคมัธยมปลาย
ตาสีน้ำตาลพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอส่งผลให้ใครก็ตามที่มองมันจะต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้กับความร่าเริงของเธอ
“ขอโทษที่มาโรงเรียนสายนะค่า”
เธอกล่าวพร้อมกับทำท่าระแวงอาจาร์ย
ทุกคนในงานหัวเราะให้กับเธอทำให้งานสนุกสนานมากขึ้นไปอีก
ทุกคนเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมของตนเองที่เคยทำตอนอยู่มัธยมที่น่าคิดถึงออกมาเล่นกัน
‘ตายยากจริงๆ’
ผมคิดพร้อมเดินเข้าไปหาเธอ
“ว่าไงเจน!”
เจนหันหน้ามายิ้มให้เธอตกใจเล็กน้อยที่ผมเข้าไปทักเธอจากด้านหลัง
“ว่าไงกิต!ไม่เจอกันนานหล่อขึ้นนะเนี่ยยยย”
เธอพูดพลางยิ้มให้พร้อมกับจะเอามือตบหน้าผากผม
‘ฟุ่บบ’
ผมหลบมือเธอเหมือนรู้ว่าเธอจะทำ
“หลบทำไมมมมหมั่นเขี้ยวมึงอะขอแป๊ะนึงดิ”
เธอพูดด้วยท่าทีทะเล้น
“มาสายแล้วยังจะทำร้ายร่างกายกูอีกนะมึง”
ผมพูดแล้วส่ายหัว
“ก็รถมันติด!”
“ไม่ใช่แน่ๆบ้านมึงอยู่ใกล้”
“เอ่ออออออ”
เธอทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้
“มึงต้องกินอะไรหกเลอะเสื้อแล้วไปเปลี่ยนเสื้อแน่ๆเลยมาสาย”
“เห้ยยยยยยยรู้ได้ไงอะหมอดูปะเนี่ย”
เธอทำท่าทางตื่นเต้นพร้อมเอามือป้องปาก
“ซึ่งกูเดาโกโก้ปั่นชัวร์”
“เชี่ยถูกกกกกมึงถูกจนเริ่มน่ากลัวละนะ”
เธอทำท่ากลัวผมแบบติดตลก
“มีแค่อย่างเดียวแหละมึงอะซุ่มซ่ามกับคู่หูโกโก้ปั่นมึงอะ”
“ * ว ย “
เธอพูดพร้อมโชว์นิ้วกลางใส่ผม
เราสองคนหัวเราะกัน
“รอนี่แปปนะ”
หลังจากนั้นผมก็เดินไปหยิบกล้องโพลาลอยด์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมา
“ถ่ายรูปกันเจน”
ผมมองไปรอบๆแล้วหาเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆมาถ่ายให้
“ไม่รอให้กูตอบเลยรึง่ะ”
“หรือจะไม่ถ่ายห๊ะ?”
“ถ่ายดิ555555555”
เธอกวนตีนแบบนี้เสมอ
เธอก็ยังคงชอบกินเลอะเทอะ
เธอยังชอบโกโก้ปั่น
เธอยังชอบตีหน้าผากผมเวลาหมั่นเขี้ยว
เธอยังมีรอยยิ้มเหมือนเดิมเหมือนวันเก่าๆ
‘แชะ’
เสียงแฟลชและชัตเตอร์ดังขึ้น
รูปค่อยเลื่อนออกมาจากกล้อง
“รูปนี้กูขอเก็บได้ปะ”
ผมพูดขึ้นแล้วทำตาปิ๊งๆใส่เธอ
“โอเคค๊เลิกทำหน้าเหมือนหมาก่อน”
เธอพูดล้อเลียนผม
เราพูดคุยกันอีกซักพักจนกระทั่ง...
“อ้าวที่รักมาแล้วหรอ”
เสียงของไอป็อปดังขึ้นเรียกเจน
“มาแล้วค้าบเดี๋ยวไปหาแปปนึงงง”
เจนตะโกนตอบกลับไป
ใช่แล้วครับเจนเป็นแฟนป็อป
ผมกับเจนเป็นเพื่อนกัน
ถึงแม้แต่ก่อนจะเคยเป็นมากกว่านี้แต่ก็เป็นแค่อดีต
แต่ในอดีตอันล้ำค่านั้นผมได้สัญญากับเจนไว้หลายเรื่อง
แต่เรากับไม่ได้ทำด้วยกันเลย
แต่อย่างน้อยผมก็ได้รักษาสัญญาไปแล้วเรื่องนึง
[ไว้ตอนโตขึ้นเรามาถ่ายรูปโพลาลอยด์กันปะ]
[เอาดิน่ารักกกก]
[สัญญาแล้วนะ]
[อื้มมม!!!]
“เราไปก่อนนะกิตป๊อปเรียกแล้วอะ”
แม้ในใจผมมีเรื่องที่จะเล่ามากมายมีคำหลายคำที่อยากจะบอกมีเรื่องราวให้พูดคุยมากแค่ไหนแต่ตอนนั้นผมพูดได้แค่ว่า
“โอเคคคคโชคดี!”
*Goodbye my Neverland*
เสียงพูดคุยพบปะกันในงานดังขึ้นอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ต่างคนต่างพูดคุยตบไหล่กับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปีอย่างสนิทสนมเสมือนว่าวันเวลาพึ่งผ่านไป2หรือ3วัน
“เห้ยไอกิตตต~!”
เสียงตะโกนเรียกของไอป๊อปเพื่อนสนิทของผมดังขึ้น
ไอป๊อปเพื่อนสนิทผมสมัย ม.ปลาย นิสัยมันเป็นคนเฮฮาร่าเริงสนิทสนมกับคนง่าย ยิ้มเก่ง อัธยาศัยดีเลยไม่มีใครเลยที่จะไม่ชอบหรือไม่สนิทกับมันเพราะมันเข้าได้กับทุกคน
“ไม่ได้เจอกันนานหล่อขึ้นเยอะเลยนี่หว่าาาา”
มันชมผมพลางเอาแขนสะกิดติดตลก
“แล้วไอนั่นใหญ่ขึ้นป่าวหล่อแต่เล็กระวังไม่มีเมียนะเว้ย”
ไอเวรป๊อปพูดแซวผมด้วยมุกลามกก่อนที่จะมองที่เป้าผมแล้วทำหน้าล้อเลียน
“ไอเวรป๊อปไอนี่”
พูดจบไม่รีรอผมโบกหัวไอป๊อปเบาๆไป1ทีด้วยความหมั่นไส้พลางหัวเราะ
ผมกับป๊อปที่สนิทกันได้ขนาดนี้เพราะหลังจากจบ ม.ปลาย เราสองคนก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อยๆบ้างเป็นบางครั้งก็เลยไม่ได้เจอกันนานขนาดนั้น
ผมพูดคุยสัพเพเหระกับไอป๊อปไปอีกแปปนึงก่อนที่จะขอไปทักทายเพื่อนๆคนอื่นในงาน
ทุกคนใส่ชุดนักเรียนสมัย ม.ปลายที่มีปากกาเขียนอยู่เต็มเสื้อเป็นคำอวยพรต่างๆจากรุ่นน้องและรุ่นเดียวกันเอง
ทุกคนใส่ชุดนักเรียนตอนวันปัจฉิมนิเทศกันหมด
เป็นภาพที่น่าคิดถึงที่ทุกคนได้มารวมตัวกันอีกครั้งแม้เวลาจะผ่านไปแล้ว5ปี
ทุกคนอายุ22-23ปี มีบางคนหน้าตาเปลี่ยนไปหรือรูปร่างเปลี่ยนไปแต่ผมก็สามารถจำได้อย่างแม่นยำว่าใครเป็นใคร
ผมกวาดตามองหาร่างของบุคคลคนคนนึงอยู่
เป็นคนที่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผมตั้งตารออยากมางานนี้
ผมพยายามมองหาเท่าที่จะทำได้
‘งานนี้รายชื่อคนก็นัดไว้ครบนะหรือว่ามันยังไม่มาเนี่ย’
ผมคิดในใจพลางกวาดสายตามองหาไปด้วย
“มาแล้วค่าาาาาา”
เสียงดังขึ้นทางประตูทางเข้าเรียกความสนใจของทุกคน
ปรากฎร่างของหญิงสาวผมสีน้ำตาลยาวสลวยที่ถูกจัดอยู่ในทรงหางม้าย้อนยุคมัธยมปลาย
ตาสีน้ำตาลพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอส่งผลให้ใครก็ตามที่มองมันจะต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้กับความร่าเริงของเธอ
“ขอโทษที่มาโรงเรียนสายนะค่า”
เธอกล่าวพร้อมกับทำท่าระแวงอาจาร์ย
ทุกคนในงานหัวเราะให้กับเธอทำให้งานสนุกสนานมากขึ้นไปอีก
ทุกคนเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมของตนเองที่เคยทำตอนอยู่มัธยมที่น่าคิดถึงออกมาเล่นกัน
‘ตายยากจริงๆ’
ผมคิดพร้อมเดินเข้าไปหาเธอ
“ว่าไงเจน!”
เจนหันหน้ามายิ้มให้เธอตกใจเล็กน้อยที่ผมเข้าไปทักเธอจากด้านหลัง
“ว่าไงกิต!ไม่เจอกันนานหล่อขึ้นนะเนี่ยยยย”
เธอพูดพลางยิ้มให้พร้อมกับจะเอามือตบหน้าผากผม
‘ฟุ่บบ’
ผมหลบมือเธอเหมือนรู้ว่าเธอจะทำ
“หลบทำไมมมมหมั่นเขี้ยวมึงอะขอแป๊ะนึงดิ”
เธอพูดด้วยท่าทีทะเล้น
“มาสายแล้วยังจะทำร้ายร่างกายกูอีกนะมึง”
ผมพูดแล้วส่ายหัว
“ก็รถมันติด!”
“ไม่ใช่แน่ๆบ้านมึงอยู่ใกล้”
“เอ่ออออออ”
เธอทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้
“มึงต้องกินอะไรหกเลอะเสื้อแล้วไปเปลี่ยนเสื้อแน่ๆเลยมาสาย”
“เห้ยยยยยยยรู้ได้ไงอะหมอดูปะเนี่ย”
เธอทำท่าทางตื่นเต้นพร้อมเอามือป้องปาก
“ซึ่งกูเดาโกโก้ปั่นชัวร์”
“เชี่ยถูกกกกกมึงถูกจนเริ่มน่ากลัวละนะ”
เธอทำท่ากลัวผมแบบติดตลก
“มีแค่อย่างเดียวแหละมึงอะซุ่มซ่ามกับคู่หูโกโก้ปั่นมึงอะ”
“ * ว ย “
เธอพูดพร้อมโชว์นิ้วกลางใส่ผม
เราสองคนหัวเราะกัน
“รอนี่แปปนะ”
หลังจากนั้นผมก็เดินไปหยิบกล้องโพลาลอยด์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมา
“ถ่ายรูปกันเจน”
ผมมองไปรอบๆแล้วหาเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆมาถ่ายให้
“ไม่รอให้กูตอบเลยรึง่ะ”
“หรือจะไม่ถ่ายห๊ะ?”
“ถ่ายดิ555555555”
เธอกวนตีนแบบนี้เสมอ
เธอก็ยังคงชอบกินเลอะเทอะ
เธอยังชอบโกโก้ปั่น
เธอยังชอบตีหน้าผากผมเวลาหมั่นเขี้ยว
เธอยังมีรอยยิ้มเหมือนเดิมเหมือนวันเก่าๆ
‘แชะ’
เสียงแฟลชและชัตเตอร์ดังขึ้น
รูปค่อยเลื่อนออกมาจากกล้อง
“รูปนี้กูขอเก็บได้ปะ”
ผมพูดขึ้นแล้วทำตาปิ๊งๆใส่เธอ
“โอเคค๊เลิกทำหน้าเหมือนหมาก่อน”
เธอพูดล้อเลียนผม
เราพูดคุยกันอีกซักพักจนกระทั่ง...
“อ้าวที่รักมาแล้วหรอ”
เสียงของไอป็อปดังขึ้นเรียกเจน
“มาแล้วค้าบเดี๋ยวไปหาแปปนึงงง”
เจนตะโกนตอบกลับไป
ใช่แล้วครับเจนเป็นแฟนป็อป
ผมกับเจนเป็นเพื่อนกัน
ถึงแม้แต่ก่อนจะเคยเป็นมากกว่านี้แต่ก็เป็นแค่อดีต
แต่ในอดีตอันล้ำค่านั้นผมได้สัญญากับเจนไว้หลายเรื่อง
แต่เรากับไม่ได้ทำด้วยกันเลย
แต่อย่างน้อยผมก็ได้รักษาสัญญาไปแล้วเรื่องนึง
[ไว้ตอนโตขึ้นเรามาถ่ายรูปโพลาลอยด์กันปะ]
[เอาดิน่ารักกกก]
[สัญญาแล้วนะ]
[อื้มมม!!!]
“เราไปก่อนนะกิตป๊อปเรียกแล้วอะ”
แม้ในใจผมมีเรื่องที่จะเล่ามากมายมีคำหลายคำที่อยากจะบอกมีเรื่องราวให้พูดคุยมากแค่ไหนแต่ตอนนั้นผมพูดได้แค่ว่า
“โอเคคคคโชคดี!”
เป็นคำบอกลาที่เรียบง่ายแต่การจะโคจรกลับมาจะง่ายเหมือนคำบอกลาไหมนะ
*Goodbye my Neverland*
Writer
Nudemood
Writer
โกโก้ปั่นแก้วนั้นยังอร่อยเสมอแม้ผมจะไม่ชอบของหวาน
แต่ผมชอบความทรงจำในโกโก้แก้วนั้น