
สัปดาห์ที่วุ่นวาย และเหน็ดเหนื่อย คงไม่มีอะไรเยียวยาใจได้ดีกว่าลมเย็นๆ อากาศบริสุทธิ์ เสียงน้ำกระทบโขดหิน และการนั่งมองดูคลื่นน้ำที่กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า...
เราได้พักผ่อนสูดอากาศ ลดความเครียด สถานที่ที่คุ้นเคย ก็ย่อมมีความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวได้ตลอด... ที่นี่เป็นที่ที่เราเคยมาตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก ยังจำรูปถ่ายที่เราวิ่งตามน้องสาวตัวเล็ก เล่นเครื่องออกกำลังด้วยกัน รูปครอบครัวที่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นเหมือนกันนะ ตอนเด็กๆ พวกเราทั้งครอบครัวคงไปเที่ยวด้วยกันอยู่บ่อยๆ แต่พอโตแล้วก็ไม่ค่อยได้มีโมเมนต์น่ารักๆ แบบนั้นอีกเลย แต่ความรักที่มีให้กันกลับเพิ่มขึ้นมากอย่างน่าประหลาดใจ...
หันหน้าเบนไปอีกทาง สายตาก็ไปเจอะกับคู่รัก มองจากรังสีความโรแมนติก เค้าคงจะเป็นคู่ที่รักกันมาก.... เหมือนกับเราในครั้งก่อนเก่า ที่เราได้มากับเธอคนนั้น ที่เคยเปรียบดังเสมือนดวงใจ ที่เป็นรักครั้งแรก ที่เรากล้าพูดคำว่ารักได้จริงๆ นึกแล้วก็แอบจึกในใจไปหนึ่งดอก (โถ่ ไม่น่าเลย) คิดอีกมุมเห้ออออ อยากมีบ้างโว้ยยย ใจมันเหงาไม่ไหวแล้ว อยากมีคนเคียงคูู่ ควงแขนไปกินชาบูกับเขาบ้าง..
ละความสนใจไปมองคลื่นในน้ำกลับนึกถึงบทเรียนขึ้นมาทันใด ได้มองเห็นหน้าคลื่นหลังจากกระทบโขดหิน เห็นหน้าคลื่นที่มีการแทรกสอด หลายคนเป็นกันมั้ย เวลาเราเห็นสิ่งที่เราเคยเรียนไปในชีวิตประจำวันแล้วมันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก 5555555
ในน้ำมีปลา คนรักปลาอย่างเราก็ตื่นเต้นอีกแล้ว น้องปลาว่ายน้ำมาหาเรา เหมือนในนิทานปลาบู่ทองที่แม่ขนิษฐาว่ายน้ำมาหาลูกเอื้อย แต่เราไม่ได้คุยอะไรกันกับเจ้าปลาพวกนั้นหรอก เราคุยกันไม่รู้เรื่องเท่าไหร่เลย น้องปลาตัวใหญ่กันมาก คงได้กินขนมปังกันทุกวันจนเอือมไปเลยละสิ
สิ่งสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงจะเป็น "ฟ้า" ถ้าไม่ส่งมา ให้เธอมีใจ.. ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มีเมฆเป็นเพื่อนไม่ห่าง มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์แวะมาหาไม่เคยเว้น คงจะไม่รู้สึกถึงความเหงาของมนุษย์คนนี้บนโลก (ไรท์เตอร์ขี้เพ้อจังเลยนะคะ)
นั้นแหละค่ะ เหงาจริงไม่ติงนัง
หลังจากได้พักกายใจใช้สมองไปพอสมควร เราก็ไปสักการะพระเจ้าตากสินต่อ ที่พึ่งทางจิตใจของชาวจันทบุรี กราบไหว้ขอพรเป็นศิริมงคล แล้วก็เดินทางกลับกัน...
อย่างที่ว่าไปตอนต้นแหละค่ะ ใช้ชีวิตมามาก เหนื่อยมาก ท้อหน่อย หาเวลาพักผ่อนกายใจกันด้วยนะคะ
เราได้พักผ่อนสูดอากาศ ลดความเครียด สถานที่ที่คุ้นเคย ก็ย่อมมีความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวได้ตลอด... ที่นี่เป็นที่ที่เราเคยมาตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก ยังจำรูปถ่ายที่เราวิ่งตามน้องสาวตัวเล็ก เล่นเครื่องออกกำลังด้วยกัน รูปครอบครัวที่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นเหมือนกันนะ ตอนเด็กๆ พวกเราทั้งครอบครัวคงไปเที่ยวด้วยกันอยู่บ่อยๆ แต่พอโตแล้วก็ไม่ค่อยได้มีโมเมนต์น่ารักๆ แบบนั้นอีกเลย แต่ความรักที่มีให้กันกลับเพิ่มขึ้นมากอย่างน่าประหลาดใจ...
หันหน้าเบนไปอีกทาง สายตาก็ไปเจอะกับคู่รัก มองจากรังสีความโรแมนติก เค้าคงจะเป็นคู่ที่รักกันมาก.... เหมือนกับเราในครั้งก่อนเก่า ที่เราได้มากับเธอคนนั้น ที่เคยเปรียบดังเสมือนดวงใจ ที่เป็นรักครั้งแรก ที่เรากล้าพูดคำว่ารักได้จริงๆ นึกแล้วก็แอบจึกในใจไปหนึ่งดอก (โถ่ ไม่น่าเลย) คิดอีกมุมเห้ออออ อยากมีบ้างโว้ยยย ใจมันเหงาไม่ไหวแล้ว อยากมีคนเคียงคูู่ ควงแขนไปกินชาบูกับเขาบ้าง..
ละความสนใจไปมองคลื่นในน้ำกลับนึกถึงบทเรียนขึ้นมาทันใด ได้มองเห็นหน้าคลื่นหลังจากกระทบโขดหิน เห็นหน้าคลื่นที่มีการแทรกสอด หลายคนเป็นกันมั้ย เวลาเราเห็นสิ่งที่เราเคยเรียนไปในชีวิตประจำวันแล้วมันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก 5555555
ในน้ำมีปลา คนรักปลาอย่างเราก็ตื่นเต้นอีกแล้ว น้องปลาว่ายน้ำมาหาเรา เหมือนในนิทานปลาบู่ทองที่แม่ขนิษฐาว่ายน้ำมาหาลูกเอื้อย แต่เราไม่ได้คุยอะไรกันกับเจ้าปลาพวกนั้นหรอก เราคุยกันไม่รู้เรื่องเท่าไหร่เลย น้องปลาตัวใหญ่กันมาก คงได้กินขนมปังกันทุกวันจนเอือมไปเลยละสิ
สิ่งสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงจะเป็น "ฟ้า" ถ้าไม่ส่งมา ให้เธอมีใจ.. ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มีเมฆเป็นเพื่อนไม่ห่าง มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์แวะมาหาไม่เคยเว้น คงจะไม่รู้สึกถึงความเหงาของมนุษย์คนนี้บนโลก (ไรท์เตอร์ขี้เพ้อจังเลยนะคะ)
นั้นแหละค่ะ เหงาจริงไม่ติงนัง
หลังจากได้พักกายใจใช้สมองไปพอสมควร เราก็ไปสักการะพระเจ้าตากสินต่อ ที่พึ่งทางจิตใจของชาวจันทบุรี กราบไหว้ขอพรเป็นศิริมงคล แล้วก็เดินทางกลับกัน...
อย่างที่ว่าไปตอนต้นแหละค่ะ ใช้ชีวิตมามาก เหนื่อยมาก ท้อหน่อย หาเวลาพักผ่อนกายใจกันด้วยนะคะ
Written in this book
short story