
หนังสือเล่มหนึ่งที่มีความยาว 165 หน้า เล่าความความรู้สึกของการได้พบและการจากลา ผ่านข้อความสั้นๆ และรูปภาพที่สื่อความหมาย
ในพาร์ทนี้เต็มไปด้วยคำมากมายที่ต้องการให้เราก้าวต่อไป ทว่าไม่ต้องกังวลว่าผู้เขียนจะใจร้าย ไม่เข้าใจความยากของมัน อันที่จริงส่วนนี้คล้ายเป็นการปลอบใจทั้งตัวเองและผู้อ่าน หรือพูดแทนใจใครหลายๆ คนซะมากกว่า
หนังสือเล่มนั้น คือ 'ดีใจที่ครั้งหนึ่งเราได้พบกัน' ที่เขียนโดย 'Today, Lastyear' เจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อเดียวกัน
วันนี้ฉันเดินผ่านสถานที่ที่เราพบกัน
โดยปราศจากความรู้สึกใดๆ
แค่คำโปรยบนหน้าปกก็คงทำให้หลายๆ คนนึกสะอึก หลายๆ ครั้งที่สิ่งที่เหนี่ยวรั้งเราไว้คือความรู้สึก และเมื่อคิดว่ามันจืดจางแล้ว พอพบสิ่งย้ำเตือนเพียงครั้ง มันก็ดันกลับมา
การปราศจากความรู้สึกช่างยากเย็น
และหนังสือเล่มนี้ก็คงไม่ได้ต้องการให้เราปราศจากความรู้สึกจากอดีตดั่งคำโปรย แต่จริงๆ แล้วแค่หมายถึง...ปราศจากความรู้สึกเจ็บปวด
เนื้อหาในเล่มแบ่งเป็น 4 พาร์ท ไล่ทุกลำดับขั้นของความสัมพันธ์ แม้จะเริ่มด้วยความรุนแรงหน่อยอย่าง 'Every change is a gift : แด่ทุกความเปลี่ยนแปลง' แต่นั่นคือความจริง...ทว่าเป็นความจริงที่รับได้ยาก
ดังนั้นก็ต้องมีช่วงให้เราตัดพ้อสักหน่อย
บางสิ่งบางอย่างก็เป็นสิ่งที่ฉาบฉวยเสียเหลือเกิน
หรือเป็นเช่นนั้นมาเนิ่นนานอยู่แล้ว
ในพาร์ทนี้เต็มไปด้วยคำมากมายที่ต้องการให้เราก้าวต่อไป ทว่าไม่ต้องกังวลว่าผู้เขียนจะใจร้าย ไม่เข้าใจความยากของมัน อันที่จริงส่วนนี้คล้ายเป็นการปลอบใจทั้งตัวเองและผู้อ่าน หรือพูดแทนใจใครหลายๆ คนซะมากกว่า
ไม่ว่าใครก็เข้าใจแหละ ...แต่มันก็ยังทำยากอยู่ดี ใช่ไหม
'It is raelly nice to know you : ดีใจที่ครั้งหนึ่งได้รู้จักคุณ' คือพาร์ทที่สองของเรื่อง เมื่อการก้าวผ่านเป็นเรื่องที่ยาก แล้วทำไมเราไม่เก็บสิ่งนั้นไว้บ้าง แทนที่จะมองจุดสุดท้ายของความสัมพันธ์ ผู้เขียนจึงพาเราย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นแทน
จุดเริ่มต้นที่เราต่างมองว่าคุ้มค่าที่จะแลก
เธอลองคิดดู มีผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาพาร์ทที่สามคือ 'Nothing forever : ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป' ...อ่านหัวข้อเผินๆ แล้วอาจคล้ายกับพาร์ทแรก แต่หากเราไล่เรื่องราวในหัวของเราให้ดี เมื่อกลับมาอ่านอีกที มันกลับไม่เหมือนพาร์ทแรกสักเท่าไหร่
...
พวกเขาเหล่านั้นต่างเดินสวนกัน สบตาเพียงไม่กี่วินาที
แล้วก็ไม่เคยมีโอกาสโคจรมาพบกันอีกเลยในโลกที่กว้างใหญ่นี้
...
โชคดีแค่ไหนหากวันนี้เราได้พบเจอ ได้พูดคุย ได้หัวเราะ
และได้ใช้เวลาร่วมกัน
พาร์ทนี้คงคล้ายมีใครสักคน (ก็อาจเป็นตัวผู้เขียน) นั่งอยู่ข้างๆ ตบไหล่ แล้วร้องไห้ไปพร้อมกับเรา
อยากเศร้าก็เศร้าเถอะ ก็มันน่าเศร้านี่หน่า
อย่าคาดหวังให้เหมือนเดิมเลย
ขนาดตัวเธอเองยังมีเปลี่ยนแปลง
แล้วนับประสาอะไรกับสิ่งอื่น
'I will keep our stories : ฉันจะเก็บเรื่องราวเอาไว้'
นี่คือพาร์ทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ ทว่าส่วนนี้ ถ้าเป็นไปได้...อยากให้ทุกคนได้อ่านเองมากกว่า เพราะมันอาจจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในแบบที่คุณจะเข้าใจมันเป็นพิเศษ
ดีใจที่ครั้งหนึ่งเราได้พบกัน
ดีใจที่ครั้งหนึ่งเราได้พบกัน
เขียน : Today, Lastyear
.
อ่านฉบับอีบุ๊กได้แล้วที่แอป fictionlog
เขียน : Today, Lastyear
.
อ่านฉบับอีบุ๊กได้แล้วที่แอป fictionlog