
ณ ขณะหนึ่ง กลางแดดร้อนจ้า อุณหภูมิราว 40 ํc
แสงอาทิตย์ช่วงบ่ายที่แยงตาจัดๆ ความรู้สึกในตอนนั้นเหนือจะพรรณาใดๆ
มันทั้งร้อน แผดเผา แทบอยากมอดไหม้
ราวกับว่าอยู่ในนรกขุมลึก ที่ไปผุดไปเกิดไม่ได้อีก..
คงไม่มีใครคิดภาพความสุขออก สิ่งที่แว้บขึ้นในหัวมีเพียงการหาพื้นที่ร่มๆ น้ำดื่มเย็นๆ มาจรรโลงหัวใจ
ตามสัญชาตญาณของการมีชีวิตอยู่ได้ร่ำร้องขึ้น
การได้เห็นหนองน้ำโอเอซิสอยู่เบื้องหน้า ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ คงเหมือนกับ ผู้ตกนรกนั้นได้มองเห็นสวรรค์ชั้นสูงสุด
มันอยู่แค่เพียงเบื้องหน้า..
แต่บางครา มันกลับกลายเป็นเพียงภาพมายาจากแสงอาทิตย์
ความรู้สึกก่อนได้ไปถึงคงหายวูบ เหมือนถูกดูดลงในนรกขุมที่ลึกยิ่งกว่าเก่า...
.
.
ดังนั้นสิ่งที่รับรู้ได้ คือเราไม่อาจจินตนาการภาพของความสุขขณะที่กำลังทุกข์ทรมาน
แต่เมื่อมีบางสิ่งกระตุ้นให้เราค้นคว้าหาบางอย่างเพื่อรั้งชีวิตไว้จากความทรมานนั้นแล้ว คงเรียกสิ่งนั้นว่า
"สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ" คงเห็นจะได้
ไม่ต้องสืบเลยนะว่าเหตุใดศาสนาจึงยังคงอยู่มนุษย์ได้
เพราะความเชื่อที่อยู่ในจิตใจนั้นมันสำคัญมากยังไงล่ะ
มันคงเป็นเป้าหมายของชีวิต ในเสี้ยววินาทีี่ได้ดื่มน้ำในขวดนั้น ...ไม่มีมันเขาคงขาดใจตายในไม่ช้า
อุณหภูมิในกายาที่ดับไม่ได้ และนอกกายาซ้ำร้ายยังสูงกว่าด้านในเสียอีก
คงมีคนที่เป็นบ้าเพราะ อากาศร้อนแน่ๆ
แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุดในโลกมาเจอกับสภาพอากาศแบบนี้ ก็คงคิดอะไรไม่ออกเหมือนกันนั่นแหละ
และ.. ผู้ที่อ่านบทความนี้คงไม่มีใครไปยืนอ่านมันท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า เพราะ ในขณะนั้นไม่น่ามีกระจิตกระใจจะมีสมาธิกับเรื่องราวใดๆได้
แค่เพียงเอาชีวิตรอดจากวินาทีตรงนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ควรทำที่สุดแล้ว..
อุณหภูมิที่ความสุขจะอยู่กับคุณ คงเป็นตอนที่คุณไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวจนสั่นแทนทนรับไม่ไหว
แต่หากในช่วงเวลานั้นมีคนคอยอยู่เคียงข้างคุณ
มันคงจะดีนะ เหมือนเป็นข้อยกเว้นของหลายๆอย่าง
คุณอาจได้พบกับความสุขได้กับทุกอุณหภูมิที่อยู่กับเขา เผชิญกับทุกความร้อน ความหนาวที่จะถาโถมเข้ามาหาได้ทุกเมื่อ ...
อยากให้คุณได้พบเจอกับความสุขในทุกอุณหภูมินะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความ
จาก .. อาการเพ้อแดดนี้ :)
แสงอาทิตย์ช่วงบ่ายที่แยงตาจัดๆ ความรู้สึกในตอนนั้นเหนือจะพรรณาใดๆ
มันทั้งร้อน แผดเผา แทบอยากมอดไหม้
ราวกับว่าอยู่ในนรกขุมลึก ที่ไปผุดไปเกิดไม่ได้อีก..
คงไม่มีใครคิดภาพความสุขออก สิ่งที่แว้บขึ้นในหัวมีเพียงการหาพื้นที่ร่มๆ น้ำดื่มเย็นๆ มาจรรโลงหัวใจ
ตามสัญชาตญาณของการมีชีวิตอยู่ได้ร่ำร้องขึ้น
พวกเราต่างตามหาสิ่งที่ทำให้ชีวิตที่เป็นอยู่นั้น สุขกายสบายใจกว่าสภาพในปัจจุบันเสมอ ...
การได้เห็นหนองน้ำโอเอซิสอยู่เบื้องหน้า ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ คงเหมือนกับ ผู้ตกนรกนั้นได้มองเห็นสวรรค์ชั้นสูงสุด
มันอยู่แค่เพียงเบื้องหน้า..
แต่บางครา มันกลับกลายเป็นเพียงภาพมายาจากแสงอาทิตย์
ความรู้สึกก่อนได้ไปถึงคงหายวูบ เหมือนถูกดูดลงในนรกขุมที่ลึกยิ่งกว่าเก่า...
.
.
ดังนั้นสิ่งที่รับรู้ได้ คือเราไม่อาจจินตนาการภาพของความสุขขณะที่กำลังทุกข์ทรมาน
แต่เมื่อมีบางสิ่งกระตุ้นให้เราค้นคว้าหาบางอย่างเพื่อรั้งชีวิตไว้จากความทรมานนั้นแล้ว คงเรียกสิ่งนั้นว่า
"สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ" คงเห็นจะได้
ไม่ต้องสืบเลยนะว่าเหตุใดศาสนาจึงยังคงอยู่มนุษย์ได้
เพราะความเชื่อที่อยู่ในจิตใจนั้นมันสำคัญมากยังไงล่ะ
น้ำดื่มเย็นๆเต็มขวด พึ่งดึงออกจากกระบะน้ำแข็งที่แค่เห็นก็รู้สึกชื่นใจ... คงเป็นที่ยึดเหนี่ยวของคนนึงท่ามกลางแดดที่ร้อนแสนอบอ้าว
มันคงเป็นเป้าหมายของชีวิต ในเสี้ยววินาทีี่ได้ดื่มน้ำในขวดนั้น ...ไม่มีมันเขาคงขาดใจตายในไม่ช้า
อุณหภูมิในกายาที่ดับไม่ได้ และนอกกายาซ้ำร้ายยังสูงกว่าด้านในเสียอีก
คงมีคนที่เป็นบ้าเพราะ อากาศร้อนแน่ๆ
แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุดในโลกมาเจอกับสภาพอากาศแบบนี้ ก็คงคิดอะไรไม่ออกเหมือนกันนั่นแหละ
อากาศของเดือนเมษา ทำให้รู้ว่าเดือนธันวาเย็นสบายกว่าแค่ไหน หรือกรกฎานี้ฝนคงตกให้เย็นชื่นใจ กว่านี้บ้างนะ..
และ.. ผู้ที่อ่านบทความนี้คงไม่มีใครไปยืนอ่านมันท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า เพราะ ในขณะนั้นไม่น่ามีกระจิตกระใจจะมีสมาธิกับเรื่องราวใดๆได้
แค่เพียงเอาชีวิตรอดจากวินาทีตรงนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ควรทำที่สุดแล้ว..
อุณหภูมิที่ความสุขจะอยู่กับคุณ คงเป็นตอนที่คุณไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวจนสั่นแทนทนรับไม่ไหว
แต่หากในช่วงเวลานั้นมีคนคอยอยู่เคียงข้างคุณ
มันคงจะดีนะ เหมือนเป็นข้อยกเว้นของหลายๆอย่าง
คุณอาจได้พบกับความสุขได้กับทุกอุณหภูมิที่อยู่กับเขา เผชิญกับทุกความร้อน ความหนาวที่จะถาโถมเข้ามาหาได้ทุกเมื่อ ...
อยากให้คุณได้พบเจอกับความสุขในทุกอุณหภูมินะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความ
จาก .. อาการเพ้อแดดนี้ :)