
'' นานแล้วนะที่ไม่ได้ขึ้นรถไฟ ทั้งที่คร้ังนี้จะได้ขึ้นรถไฟอีกครั้งในรอบหลายปีแท้ๆ แต่เจ้าโรคระบาดก็มาขวางจนได้ '' เราคิดในใจ งั้นมาทวนความทรงจำเกี่ยวกับรถไฟดีกว่า
เราขึ้นรถไฟครั้งแรกตั้งแต่เด็กๆเลยล่ะ และทุกครั้งที่ได้ขึ้นรถไฟก็มีเหตุผลเดียว คือ ไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่กรุงเทพ เราว่าตัวเองในวัยแค่นั้นคงชอบรถไฟเพราะบนรถไฟคุยเสียงดังได้ เดินไปเดินมาได้ ไม่เหมือนเครื่องบินที่เราได้ขึ้นตอนโต ต้องนั่งอยู่กับที่อย่างสงบเสงี่ยม ไม่พูดเสียงดังและจะเดินได้ก็ตอนไปห้องน้ำเท่านั้นแหละ
แต่ตอนนี้เราชอบทุกกระบวนการของการเดินทางโดยรถไฟ ตั้งแต่ตั๋วไปจนถึงสถานีหัวลำโพงจุดหมายปลายทางทุกครั้งของเรา
กระดาษสีขาวและตัวอักษรสีเขียว ที่สำคัญมีรูอยู่ทั้งสองข้างของกระดาษ และแน่นอนกลิ่นตั๋วรถไฟก็เป็นอีกอย่างที่เราชอบ มันหอมดี ยูนีคด้วย เราว่าเราเจอกลิ่นนี้แค่บนตั๋วรถไฟเท่านั้นนะ
วันเดินทางเราก็ไปที่สถานีรถไฟ เราชอบจริงๆเลยที่ชานชาลาเป็นทั้งที่นั่ง ที่นอน และทางเดินในเวลาเดียวกัน ก็เวลาการเดินรถมันตรงเผงซะขนาดนั้น ฮ่าๆ
เอาล่ะ รถไฟมาแล้ว ตรวจดูสัมภาระ ตั๋ว และคนรอบข้างให้ดี ตอนนี้นายสถานีจะยกธงแดงและบอกให้เราออกห่างจากชานชาลา แม่บอกว่าเดี๋ยวจะโดนดูด!
รถไฟจอดแล้วเราก็เดินหาตู้รถไฟตามตั๋วของตัวเอง เจอแล้ว! พ่อตะโกนบอกทุกคน แล้วเราก็ต้องขนของขึ้นไป แม่อุ้มน้องและถือกระเป๋า 1 ใบขึ้นไปหาที่นั่ง เราก็เดินตามแม่พร้อมอะไรบางอย่างในมือที่พอจะช่วยถือได้ ส่วนพ่อน่ะเหรอคะ ก็รอส่งกระเป๋าให้ทางหน้าต่าง เราชอบโม้เม้นต์นี้เหมือนกัน ขนของเสร็จก็ร่ำลาญาติๆที่มาส่ง แล้วพ่อก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเรา น้อง และแม่ที่โผล่หน้าออกมาจากหน้าต่าง 1 2 3 แชะ!
ฉึกฉัก ฉึกฉัก ฉึกฉัก รถออกแล้ว มองออกไปนอกหน้าต่าง โบกมือบ๊ายบายให้กับญาติๆที่กำลังออกห่างจากเราทุกที รู้สึกตัวอีกทีวิวข้างนอกก็ไม่ใช่ชานชาลาซะแล้ว
เด็กอย่างเรากับน้องก็คุยกันเจีี๊ยวจ๊าว กินขนม ง่วงก็นอน เท่าที่จำได้รู้สึกว่าสักพักจะมีเจ้าหน้าที่มาขอดูตั๋วแล้วก็ทำอะไรสักอย่างด้วย การขึ้นรถไฟคร้้ังหลังๆที่เราโตพอจะไปห้องน้ำเองแล้ว เราก็จะเดินไปเอง การเข้าห้องน้ำบนรถไฟสนุกตรงที่เราต้องระวังเพราะรถมันไม่ได้อยู่นิ่ง กว่าจะทำธุระเสร็จเล่นเอาใจหายไปหลายรอบ
ไฮไลท์หนึ่งของรถไฟ คือ กาละแมไหมคะ กระยาสารทไหมคะ ข้าวเหนียวไก่ก็มีนะค้าาา
ขึ้นรถไฟไม่ต้องกลัวอด อดไม่ได้ที่จะอุดหนุน 55555 จริงๆนะคะก็พ่อค้าแม่ค้าเขาน่ารักกันมาก
และนี่คือสิ่งที่เราชอบที่สุด เรายกให้เป็นไฮไลท์สุดๆสำหรับการเดินทางโดยรถไฟ คือ
'' เตียงนอนของรถไฟ ''
มันน่าทึ่งมากเลยที่เก้าอี้ประกอบร่างกันเป็นเตียงได้ เรารอเวลาที่เจ้าหน้าที่จะมาทำเตียงให้ พวกเขาชำนาญกันสุดๆ ดึงนั่น พับนี่ แป๊บเดียวก็มีเตียงอยู่ตรงหน้า เราจำได้ว่าเราขอพ่อแม่นอนเตียงบนตลอด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่มีครั้งหนึ่งที่อยู่ดีๆเราก็กลัวตกเตียงขึ้นมา ถึงแม้จะมีสายคาดกันตกแล้วก็ตาม เราเลยถามแม่และแม่ก็ถามเจ้าหน้าที่ทำเตียงว่า '' เคยมีคนนอนเตียงบนแล้วตกลงมาไหมคะ '' '' ไม่เคยครับ '' เจ้าหน้าที่ตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะ ท้ายที่สุดเราก็ยัง ใจกล้าขึ้นไปนอนเตียงบน พอปิดม่านแล้ว ที่นอนบนรถไฟเหมือนห้องส่วนตัวย่อมๆเลย ซึ่งเราชอบมาก ชอบที่สุดคงเป็นไฟสีส้มดวงเล็กๆบนผนังตู้รถไฟ
ตื่นมาเห็นวิวดวงอาทิตย์ขึ้นบวกกับท้องฟ้าสวยๆตอนเช้าก็ทำให้ยิ้มกว้างได้ง่ายๆเลยค่ะ แต่คนที่จะเห็นได้คือคนที่นอนเตียงล่าง เพราะเตียงบนไม่มีหน้าต่าง เราเลยต้องลงไปดูข้างล่าง
อีกอย่างที่เรากลัวตอนนั่งรถไฟ คือ เรากลัวว่ารางจะขาดเวลาที่รถไฟต้องวิ่งผ่านที่ที่ข้างล่างเป็นน้ำ เป็นคลองอะไรแบบนี้ค่ะ และตอนนี้ก็ยังกลัวอยู่ 55555
ถึงหัวลำโพงแล้ว! สถานีปลายทางทุกครั้งของเรา ที่นี่กว้างใหญ่และคนเยอะมาก
เราและครอบครัวต้องช่วยกันขนสัมภาระแล้วออกไปหาแท็กซี่เพื่อไปยังสถานีต่อไปก็คือบ้านคุณตาคุณยายของเรานั่นเอง
เหล่านี้เป็นความทรงจำของเราเกี่ยวกับรถไฟซึ่งก็นานมากแล้ว ไม่รู้ตอนนี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
:)
Comments
ongsa
10 months ago
ปัจจุบันเราก็ยังต้องนั่งรถไฟไปทำงานอยู่ ต้องไปให้ตรงเวลา เพราะมีรอบของมัน ถ้าตกก็คือตก
คนเก็บตั๋วเคยบอกว่า รถไฟคุณต้องมารอมันนะ ถ้าตกคุณก็พลาด แต่ถ้ารถไฟมาเลท ทำยังไงคุณก็ต้องรอ...
ไม่รู้ทันตั๋วรถไฟสมัยก่อนมั้ย มันสวยมากๆ
คนเก็บตั๋วเคยบอกว่า รถไฟคุณต้องมารอมันนะ ถ้าตกคุณก็พลาด แต่ถ้ารถไฟมาเลท ทำยังไงคุณก็ต้องรอ...
ไม่รู้ทันตั๋วรถไฟสมัยก่อนมั้ย มันสวยมากๆ
Reply
je_umbrella
10 months ago
อิจฉาจังเลยค่ะ 55555 แต่เราเคยเห็นแค่ตั๋วกระดาษขาวกับอักษรสีเขียวนี่แหละค่ะ ไว้จะลองไปหาดูนะคะ