
มัชฌิมาเกลียดฤดูหนาว
เกลียดเสียงลมหวูดหวิวปะทะกับซอกตึกไปมาจนเกิดเสียงประหลาด
เกลียดความรู้สึกเหมือนถูกกัดกินมาจากส่วนลึก
เกลียดแม้กระทั่งดอกเดซี่ที่เอาแต่เบ่งบานราวกับกำลังเฉลิมฉลองให้ฤดูที่แสนเจ็บปวด
ใช่..
โชคร้ายที่มัชฌิมาเคยมีเรื่องเจ็บปวด
กลางฤดูหนาว
ฤดูที่เธอเคยตกหลุมรักมันจับใจ
"Hot chocolate, please? "
เรื่องราวเริ่มขึ้นจากตรงนั้น ใต้หลังคาร้านกาแฟที่มีเพียงคนขายแก่ๆคราวปู่
มีแค่เพียงเสียงเปิดประตูบานใหญ่ ที่เก่าเสียจนเธอกังวลแทนเจ้าของร้าน ว่ามันคงหล่นมาทับใครเข้าสักวัน
ดึกสงัดที่คงไม่มีใครหน้าไหนนอกจากเธอโซเซเข้ามาในร้านกาแฟไร้ชื่อ
แต่เขาเป็นคนนั้น..
มัชฌิมาเอี้ยวคอมองไปยังบานประตูที่กำลังถูกปิดลงอย่างเบามือ
เจ้าของโค้ทสีเบอร์กันดีที่เกือบจะเป็นสีดำมากกว่าสีแดงเลือดนั้นขโยกตัวเดินเข้ามาในร้าน
โดยรวมเขาก็
ดูทรงเสน่ห์
อะไรประมาณนั้น
ไม่ได้หมายถึงเส้นผมที่ดูเยาว์วัย
ไม่ได้หมายถึงส่วนสูงที่สง่างาม
ไม่ได้หมายถึงฝีเท้าที่ย่างเดินอย่างแผ่วเบา
แต่หมายถึงตาคู่นั้น
สีเดียวกับ อืม...
ครั้งนี้มัชฌิมานึกไม่ออก แต่รู้สึกราวๆกับว่า มันเป็นดวงตาคู่ที่แสนดี และอ่อนไหวราวกับการกระพริบจะทำให้มันแตกสลาย
"Pardon me
ชาร็อตเอง
เกลียดเสียงลมหวูดหวิวปะทะกับซอกตึกไปมาจนเกิดเสียงประหลาด
เกลียดความรู้สึกเหมือนถูกกัดกินมาจากส่วนลึก
เกลียดแม้กระทั่งดอกเดซี่ที่เอาแต่เบ่งบานราวกับกำลังเฉลิมฉลองให้ฤดูที่แสนเจ็บปวด
ใช่..
โชคร้ายที่มัชฌิมาเคยมีเรื่องเจ็บปวด
กลางฤดูหนาว
ฤดูที่เธอเคยตกหลุมรักมันจับใจ
"Hot chocolate, please? "
เรื่องราวเริ่มขึ้นจากตรงนั้น ใต้หลังคาร้านกาแฟที่มีเพียงคนขายแก่ๆคราวปู่
มัชฌิมาเดินสะโหลสะเหลเข้ามา
หลังจากงมอยู่กับวิทยานิพนธ์เสียครึ่งค่อนวัน
เรียกได้ว่าหาอะไรอุ่นๆดื่มเติมพลังล่ะมั้งสำหรับตอนนี้...ยี่สิบสามนาฬิกา
จากนั้นไม่มีเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งน่ารักใดๆ
ไม่มีดาว
ไม่มีแสงไฟสลัว
หลังจากงมอยู่กับวิทยานิพนธ์เสียครึ่งค่อนวัน
เรียกได้ว่าหาอะไรอุ่นๆดื่มเติมพลังล่ะมั้งสำหรับตอนนี้...ยี่สิบสามนาฬิกา
จากนั้นไม่มีเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งน่ารักใดๆ
ไม่มีดาว
ไม่มีแสงไฟสลัว
มีแค่เพียงเสียงเปิดประตูบานใหญ่ ที่เก่าเสียจนเธอกังวลแทนเจ้าของร้าน ว่ามันคงหล่นมาทับใครเข้าสักวัน
ดึกสงัดที่คงไม่มีใครหน้าไหนนอกจากเธอโซเซเข้ามาในร้านกาแฟไร้ชื่อ
แต่เขาเป็นคนนั้น..
มัชฌิมาเอี้ยวคอมองไปยังบานประตูที่กำลังถูกปิดลงอย่างเบามือ
เจ้าของโค้ทสีเบอร์กันดีที่เกือบจะเป็นสีดำมากกว่าสีแดงเลือดนั้นขโยกตัวเดินเข้ามาในร้าน
โดยรวมเขาก็
ดูทรงเสน่ห์
อะไรประมาณนั้น
ไม่ได้หมายถึงเส้นผมที่ดูเยาว์วัย
ไม่ได้หมายถึงส่วนสูงที่สง่างาม
ไม่ได้หมายถึงฝีเท้าที่ย่างเดินอย่างแผ่วเบา
แต่หมายถึงตาคู่นั้น
สีเดียวกับ อืม...
ครั้งนี้มัชฌิมานึกไม่ออก แต่รู้สึกราวๆกับว่า มันเป็นดวงตาคู่ที่แสนดี และอ่อนไหวราวกับการกระพริบจะทำให้มันแตกสลาย
"Pardon me
Cigarettes? "
บ้าบอ
ผู้ชายแปลกหน้ากับการปรากฏตัวแสนประหลาดไม่ยอมตรงไปที่เคาน์ทเตอร์ แต่ตรงมาทางเธอ
มัชฌิมาสูดลมหายใจลึก
ตลกชะมัดที่ใครบางคนมาขอบุหรี่จากผู้หญิงแบบเธอ
และที่ตลกกว่านั้น
บ้าบอ
ผู้ชายแปลกหน้ากับการปรากฏตัวแสนประหลาดไม่ยอมตรงไปที่เคาน์ทเตอร์ แต่ตรงมาทางเธอ
มัชฌิมาสูดลมหายใจลึก
ตลกชะมัดที่ใครบางคนมาขอบุหรี่จากผู้หญิงแบบเธอ
และที่ตลกกว่านั้น
เธอดันมี Sobranie Cocktail
ยาสูบยี่ห้อโบราณติดอยู่ในกระเป๋าสะพาย
(โธ่ เขียนวิทยานิพนธ์มันก็ต้องมีผ่อนคลายบ้างน่ะ)
ยาสูบยี่ห้อโบราณติดอยู่ในกระเป๋าสะพาย
(โธ่ เขียนวิทยานิพนธ์มันก็ต้องมีผ่อนคลายบ้างน่ะ)
"ขอบคุณครับ"
ร่างสูงนั่งลงตรงข้ามกับเธอหลังจากเอ่ยขอบคุณเป็นภาษาไทย องศาหน้าของเขาเฉียงรับกับแสงไฟดวงเก่า
เขายกยิ้มอย่างอ่อนโยน
"รู้ได้ไงว่าคนไทย"
"ในกระเป๋าคุณมียาดมสีชมพูขาวนั่น จำชื่อไม่ได้ แต่บ้านเกิดผมมี"
"เขาเรียกยาดมโป๊ยเซียน"
มัชฌิมาแค่นขำ
มองคนตรงหน้าจุดสูบยาเสพติดอันรื่นรสอย่างนิ่งงัน และมีคำถามมากมายวิ่งแล่นในหัว
"ผมชื่อชาร์ม" เอ่ยขึ้นก่่่อนอย่างเขินอาย ในขณะที่คนฟังกำลังคนช็อกโกแลตร้อนในแก้วอย่างรอฟัง
"ชามที่เป็นชื่อไทยอะนะ"
"ไม่เชิง มาจาก Charming
คุณล่ะ?"
"มัชฌิมา"
หญิงสาวแทบกลั้นรอยยิ้มไม่อยู่
ให้ตาย
ร่างสูงนั่งลงตรงข้ามกับเธอหลังจากเอ่ยขอบคุณเป็นภาษาไทย องศาหน้าของเขาเฉียงรับกับแสงไฟดวงเก่า
เขายกยิ้มอย่างอ่อนโยน
"รู้ได้ไงว่าคนไทย"
"ในกระเป๋าคุณมียาดมสีชมพูขาวนั่น จำชื่อไม่ได้ แต่บ้านเกิดผมมี"
"เขาเรียกยาดมโป๊ยเซียน"
มัชฌิมาแค่นขำ
มองคนตรงหน้าจุดสูบยาเสพติดอันรื่นรสอย่างนิ่งงัน และมีคำถามมากมายวิ่งแล่นในหัว
"ผมชื่อชาร์ม" เอ่ยขึ้นก่่่อนอย่างเขินอาย ในขณะที่คนฟังกำลังคนช็อกโกแลตร้อนในแก้วอย่างรอฟัง
"ชามที่เป็นชื่อไทยอะนะ"
"ไม่เชิง มาจาก Charming
คุณล่ะ?"
"มัชฌิมา"
หญิงสาวแทบกลั้นรอยยิ้มไม่อยู่
ให้ตาย
Charming แปลว่าทรงเสน่ห์
ชาร็อตเอง
พูดคุยกันได้นะคะ:-) #storylogcharrotss