
Drowned in living waters,
Cursed by the love that I received
เมื่อน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงค์ชีวิตทางร่างกาย พระผู้เป็นเจ้าได้ช่วยให้รอดและคำสอนของพระองค์ ก็จำเป็นสำหรับชีวิตนิรันดร์เช่นกัน
น้ำขาดไปจากทะเลสาบแม่น้ำก็ย่อมเหือดแห้งฉันใด มนุษย์วางหัวใจลงไป เมื่อยอมให้แตกสลาย ก็ย่อมคว้าไม่ขึ้นอีกฉันนั้น
เฉกเช่นเดียวกับความรัก
London, 1984
She said, “baby, I’m afraid to fall in love”
ฤดูหนาวกำลังจะวนมาอีกครั้ง พร้อมกับการใช้ชีวิตในต่างประเทศคนเดียวครั้งแรกของเด็กสาววัยสิบเก้าปี ความประหม่า ความกังวล ความไม่แน่ใจ ความรู้สึกสะเปะสะปะผสมปรนเปกันไปอย่างไร้ร่าง
เสื้อโค้ทสีน้ำตาลไหม้ขนาดพอดีตัวถูกกระชับขึ้นอีกครั้งเพื่อกระตุ้นความมั่นใจก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้สาธารณะบริเวณนั้น กระป๋องโกโก้รสชาติอ่อนกระแทกพื้นไม้ในเวลาแทบจะทันที
“Excuse me, can I sit here?”
“......”
“......”
“อะ...อ๋อ ㅡ yes, you can”
“อ้าว คนไทยเหรอเรา”
เจ้าของโค้ทสีน้ำเงินเข้มเลิกคิ้วนิดหน่อย ก่อนจะถามออกมาด้วยภาษาต่างถิ่น แบบที่คนฟังเองเมื่อได้ยินก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ วินาทีนั้นรู้สึกอุ่นใจเหมือนรอดตายเชียวแหละ เราคุยกันนิดหน่อยหลังจากนั้น ทำความรู้จักเพิ่มอีกไม่มากนักก่อนที่จะเอ่ยลากันในที่สุด
เขาไม่ได้แนะนำตัวด้วยชื่อ หรือตั้งคำถาม พร่ำบอกเหตุผลที่เดินทางมาไกลถึงที่นี่ เพียงแต่เขาเปรย
“อเมริกาโน่เนี่ย เป็นกาแฟที่รสชาติชวนให้ดำดิ่งในความคิดจริงเนอะ ว่าไหม?”
ราวกับเป็นคำถามปลายเปิด ไม่ต้องการคำตอบ ไม่ต้องการความคิดเห็นหรือข้อโต้แย้ง นึกอยากจะพูดก็พูด แต่สิ่งที่น่ายินดีคือแม้เราจะไม่ได้สนทนากันยาวเหยียดหรือสนุกออกรสอย่างที่ควรจะเป็น แต่เราสามารถใช้ความเงียบแลกเปลี่ยนตัวตนของกันและกันได้อย่างไร้ข้อกังขา
เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่หอพักใกล้กัน เราสนิทกันอย่างรวดเร็วและใช้เวลาไม่น้อยไปกับการทำกิจกรรมร่วมกัน ทำอาหาร ดูหนัง ฟังเพลง วิจารณ์งานเขียน กระทั่งบทกวี และใช่แน่นอน เขาเป็นนักเขียน ส่วนฉันก็คงเป็นนักอ่านที่ดีสำหรับเขา
รสนิยมความชอบที่คล้ายกัน ทำให้เราเข้ากันได้ดีและเริ่มสนิทกันมากขึ้นทุกวัน จนเมื่อความรู้สึกบางอย่างก่อขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่กระนั้น ก็ไม่มีใครคิดจะหยุดห้ามมัน เรายังคงดำเนินชีวิตไปอย่างปกติพร้อมหล่อเลี้ยงมันไว้อยู่ข้างในเสมอ
การกระทำของเขาเริ่มมีอิทธิพลต่อใจฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงเล็กในใจตะโกนออกมาคัดค้านการเกิดขึ้นของความสัมพันธ์ที่รู้ทั้งรู้ว่าอันตราย การถลำลึกของความรู้สึกจนถึงขีดสุด เสพติดคนคนนี้จนบ้าคลั่ง
ฉันปล่อยตัวให้เคว้งเมื่อตกลงไปในหลุมนั้น
สำหรับฉัน การตกหลุมรักนั้นมันช่างไร้รูปธรรม
มันสามารถบิดเบี้ยว และไขว้เขวไปได้ในทุกเสี้ยววินาที มันทั้งหนักแน่นและเปราะบาง ทั้งบีบอัดและปล่อยฟุ้ง ทั้งมุ่งมั่นและหลงทาง ทั้งเติมเต็มและบั่นทอน ทั้งมอบความสบายใจและกระวนกระวายไปในเวลาเดียวกัน
ไร้ซึ่งเหตุผลและกำหนดการ ไร้ซึ่งคำจำกัดความ ไร้ซึ่งความหมายของบทกวี รวมไปถึงน้ำหนักคอยถ่วงดุลให้อยู่ในความพอดี อันที่จริงแล้วการตกหลุมรักมันคอนโทรลอะไรไม่ได้เลยต่างหาก
มวลความรู้สึกมหาศาล น่าหลงใหล ปรารถนาจะไขว่คว้า เสพติดมัน, มีความสุขจนหาอะไรมาแทนที่ไม่ได้ และอันตรายที่สุดในเวลาเดียวกัน
“อย่าตกหลุมรักนักเขียน” เธอเอ่ย
นั่นคือสิ่งแรกที่ฉันคิดเห็นไม่ตรงกับเขา มันจะเสียหายตรงไหนล่ะ การดำรงชีวิตโดยไร้ซึ่งความเจ็บปวดก็คงไม่ต่างอะไรจากทะเลสาบไร้คลื่น หรือความคิดไร้ร่าง ไม่มีหนทาง จับต้องไม่ได้ และคงไม่มีความหมายกับฉันเท่าไหร่นัก
ฉันพร้อมจะร่วงหล่นลงมาเสมอ
Dear, you
จักรวาลเสียสมดุลเพราะคุณคนเดียว,
@cewlixm