
ฉันเป็นผู้หนึ่งมีความฝันมากมาย บรรยายให้ฟังสั้น หมอ(จิตแพทย์) ดีไซน์เนอร์ นักเขียน โอเปเรอเตอร์ เภสัชกร(ปรุงยา) นักแปล/ล่าม(ใช้ภาษาอังกฤษให้คนทั่วโลกเข้าใจกัน) ครูปฐมวัย นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์(อันนี้ไม่กล้าบอกใคร เพราะบอกคนในครอบครัว คนในบ้านบอกว่า "สงเคราะห์ตัวเองให้รอดก่อนไหม?" เลยเก็บไว้) นักอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม(บอกอาจารย์แนะแนว อยากเรียนคณะวนศาสตร์ อาจารย์บอกว่าไม่เหมาะกับเรา) โภชนากร R&D กราฟฟิคดีไซน์ มาร์เก็ตติ้งออนไลน์
สิ่งที่ฉันทำคือ ศึกษาสิ่งพวกนั้นนอกเวลา เพราะฉันเรียน คณะอุตสาหกรรมเกษตร (วิทยาศาสตร์อาหาร) ดังนั้นฉันจึงหันเหเพื่อให้มีเป้าหมาย เลยอยากสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ติดท้องตลาด ซึ่งพอเรียนจบ ฉันไม่เคยได้เป็น R&D ฉันก็เก็บความฝันนั้นไว้ ฉันทำงานควบคุมคุณภาพอาหารจ้า แต่เมื่อว่างฉันมักจะ
-อ่านจิตวิทยา ศึกษาตัวเอง และผู้อื่น เพื่อความเข้าใจ
-อ่านการศึกษาไทย ฟินแลนด์ และอื่นๆ
-เขียนนิยายในเด็กดี(ตอนนั้นไม่มี Storylog) เลยไม่ได้เขียนบทความ แต่งกลอนเล่นในสมุด เฟสบุ๊ค
-ตัดต่อรูปภาพ บางทีก็ฝึกวาดรูปในคอมพิวเตอร์ ดูรูปภาพสวยๆ
-กลับบ้าน ร้องคาราโอเกะ แปลงเพลงเอาฮา เต้น
ฉันทำงานที่ต้องครอบหัวโขนการเป็นหัวหน้า เจอทัศนคติแปลกๆที่ขัดแย้งกับตัวเอง เช่น
-ผู้ใหญ่บางคนไม่ต้องไหว้หมดก็ได้ (คือฉันเป็นเด็กจบใหม่อายุน้อยสุด)
-คำว่า"ขอบคุณ" ไม่ต้องใช้บ่อยๆ ลูกน้องเขาคิดว่าเราประชด เพราะมันเป็นงานของเขาอยู่แล้ว
-เป็นหัวหน้าต้องไม่พลาดให้ลูกน้องเห็น
-คำว่า "ช่างมันเถอะ" ช่วยกันแก้ดีกว่า ดันใช้ไม่ได้ คือฉันไม่ชอบการหาว่าใครทำผิด ฉันชอบคิดว่าผิดตรงไหน และจะแก้ปัญหายังไง ป้องกันยังไง คำว่า"ช่างมันเถอะ" เพราะมันเกิดมาแล้ว ก็ต้องแก้ คือ เป็นแผนกควบคุมคุณภาพ=ห้ามผิดพลาด คือ?
-เราเป็นหัวหน้าต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ คือในตำแหน่งเราก็มีอำนาจในมืออยู่แล้ว ทำไมต้องแสดงวางมาดอีก? ฉันชอบช่วยเหลือลูกน้องก็ถูกว่า ถ้าลูกน้องกับหัวหน้าันเลือกอะไร? ฉันตอบว่า"เลือกลูกน้อง เพราะถ้าไม่มีพวกเขา เราก็ไม่มีข้อมูลให้หัวหน้า" แต่เขาดันสอนให้ฉันเลือกหัวหน้า เพราะถ้าหัวหน้าถูกใจเราก็จะได้เงินเพิ่ม เลื่อนตำแหน่ง คืออะไร?
ฉันอยู่ในสภาวะปลาหมึกปิ้งที่มีล้อทับทั้งสองข้างให้มันแบนๆ นั่นแหละสถานะของฉัน ฉันจึงออกจากวังวนนั้นดีกว่า เพราะฉันอยู่แล้วช่วยเหลือใครไม่ได้เลย ฉันต้องพยายามคิดว่า "คุมคุณภาพเพื่อลูกค้า" แต่พอเจอปัญหาดันรีเจกท์ทั้งล็อตไม่ได้ เพราะต้องส่ง คือ เอิ่ม!! คุมคนซะดิบดี แต่สินค้าไม่มีคุณภาพรีเจกท์ไม่ได้(ทุกโรงงานอาหารที่ฉันประสบมา) แผนกนี้มีไว้คุมคนให้อยู่ในกฎ ตรวจสอบเอาข้อมูล แก้ไขได้แต่อย่าส่งผลต่อการขาย บางทีหนักถึงขั้นต้องเอาข้อมูลเป็นสัปดาห์กว่าจะแก้ปัญหากับซัพพลายเออร์ คืออะไร? สิ่งที่ควรคุมไม่คุม สิ่งที่ไม่ควรดันคุม
ฉันจึงย้ายมาทำงานบริการไปเลย ไม่ต้องคุมใคร แนะนำช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติให้สามารถทำวีซ่าได้ และย้ายมาเป็นผู้ช่วยมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ งานเหล่านี้ฉันอาศัยความชอบ และมันก็ทำให้ฉันรู้ว่าฉันมีความสุขมากกว่า แต่นั้นมันก็แค่ทำงานเพื่อตัวเองและครอบครัว
จนกระทั่งวันนี้ฉันมีโอกาสเข้าร่วมงานกับบริษัทที่เป็นสื่อการตลาดเพื่อระดมทุนให้กับมูลนิธิต่างๆ ซึ่งมันไม่ใช่แค่งาน แต่มันคือความฝันของฉันเลย เพราะฉันมาถึงจุดนี้ได้เนื่องจากมีทุนการศึกษาต่างๆจากมูลนิธิ ทำให้ฉันไม่ลังเลที่จะทำ ไม่ว่ามีงานได้เงินดีกว่านี้ แต่ไม่มีงานไหนที่เราจะได้ช่วยเหลือสังคม รวมถึงช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวได้ ซึ่งฉันเพิ่งรู้ว่า เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เราคิด เราฝันมาตลอดนั้น มันรู้สึกดีแค่ไหน? ฉันได้แต่ภาวนากับพระเจ้าให้ช่วยเหลือทุกคนบนโลก ให้เขาอยู่อย่างมีความสุข เข้าถึงการแพทย์ แต่แล้ววันนี้และจากนี้เป็นต้นไป ฉันทำได้ทั้งภาวนา ลงแรง และหากฉันมีเงินพอ ฉันก็จะแบ่งปันต่อไป
ฉันมีความคิด มีอุดมการณ์ มีทัศนคติในการมองโลกที่หลายคนบอกว่า มันเป็นโลกในอุดมคติ ซึ่งฉันได้เรียนรู้ว่ามันจริงแบบที่เขาพูด
สิ่งที่ฉันคิดเสมอ คือ ทุกคนคือสีสันของโลก
สิ่งที่ฉันทำคือ ศึกษาสิ่งพวกนั้นนอกเวลา เพราะฉันเรียน คณะอุตสาหกรรมเกษตร (วิทยาศาสตร์อาหาร) ดังนั้นฉันจึงหันเหเพื่อให้มีเป้าหมาย เลยอยากสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ติดท้องตลาด ซึ่งพอเรียนจบ ฉันไม่เคยได้เป็น R&D ฉันก็เก็บความฝันนั้นไว้ ฉันทำงานควบคุมคุณภาพอาหารจ้า แต่เมื่อว่างฉันมักจะ
-อ่านจิตวิทยา ศึกษาตัวเอง และผู้อื่น เพื่อความเข้าใจ
-อ่านการศึกษาไทย ฟินแลนด์ และอื่นๆ
-เขียนนิยายในเด็กดี(ตอนนั้นไม่มี Storylog) เลยไม่ได้เขียนบทความ แต่งกลอนเล่นในสมุด เฟสบุ๊ค
-ตัดต่อรูปภาพ บางทีก็ฝึกวาดรูปในคอมพิวเตอร์ ดูรูปภาพสวยๆ
-กลับบ้าน ร้องคาราโอเกะ แปลงเพลงเอาฮา เต้น
ฉันทำงานที่ต้องครอบหัวโขนการเป็นหัวหน้า เจอทัศนคติแปลกๆที่ขัดแย้งกับตัวเอง เช่น
-ผู้ใหญ่บางคนไม่ต้องไหว้หมดก็ได้ (คือฉันเป็นเด็กจบใหม่อายุน้อยสุด)
-คำว่า"ขอบคุณ" ไม่ต้องใช้บ่อยๆ ลูกน้องเขาคิดว่าเราประชด เพราะมันเป็นงานของเขาอยู่แล้ว
-เป็นหัวหน้าต้องไม่พลาดให้ลูกน้องเห็น
-คำว่า "ช่างมันเถอะ" ช่วยกันแก้ดีกว่า ดันใช้ไม่ได้ คือฉันไม่ชอบการหาว่าใครทำผิด ฉันชอบคิดว่าผิดตรงไหน และจะแก้ปัญหายังไง ป้องกันยังไง คำว่า"ช่างมันเถอะ" เพราะมันเกิดมาแล้ว ก็ต้องแก้ คือ เป็นแผนกควบคุมคุณภาพ=ห้ามผิดพลาด คือ?
-เราเป็นหัวหน้าต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ คือในตำแหน่งเราก็มีอำนาจในมืออยู่แล้ว ทำไมต้องแสดงวางมาดอีก? ฉันชอบช่วยเหลือลูกน้องก็ถูกว่า ถ้าลูกน้องกับหัวหน้าันเลือกอะไร? ฉันตอบว่า"เลือกลูกน้อง เพราะถ้าไม่มีพวกเขา เราก็ไม่มีข้อมูลให้หัวหน้า" แต่เขาดันสอนให้ฉันเลือกหัวหน้า เพราะถ้าหัวหน้าถูกใจเราก็จะได้เงินเพิ่ม เลื่อนตำแหน่ง คืออะไร?
ฉันอยู่ในสภาวะปลาหมึกปิ้งที่มีล้อทับทั้งสองข้างให้มันแบนๆ นั่นแหละสถานะของฉัน ฉันจึงออกจากวังวนนั้นดีกว่า เพราะฉันอยู่แล้วช่วยเหลือใครไม่ได้เลย ฉันต้องพยายามคิดว่า "คุมคุณภาพเพื่อลูกค้า" แต่พอเจอปัญหาดันรีเจกท์ทั้งล็อตไม่ได้ เพราะต้องส่ง คือ เอิ่ม!! คุมคนซะดิบดี แต่สินค้าไม่มีคุณภาพรีเจกท์ไม่ได้(ทุกโรงงานอาหารที่ฉันประสบมา) แผนกนี้มีไว้คุมคนให้อยู่ในกฎ ตรวจสอบเอาข้อมูล แก้ไขได้แต่อย่าส่งผลต่อการขาย บางทีหนักถึงขั้นต้องเอาข้อมูลเป็นสัปดาห์กว่าจะแก้ปัญหากับซัพพลายเออร์ คืออะไร? สิ่งที่ควรคุมไม่คุม สิ่งที่ไม่ควรดันคุม
ฉันจึงย้ายมาทำงานบริการไปเลย ไม่ต้องคุมใคร แนะนำช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติให้สามารถทำวีซ่าได้ และย้ายมาเป็นผู้ช่วยมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ งานเหล่านี้ฉันอาศัยความชอบ และมันก็ทำให้ฉันรู้ว่าฉันมีความสุขมากกว่า แต่นั้นมันก็แค่ทำงานเพื่อตัวเองและครอบครัว
จนกระทั่งวันนี้ฉันมีโอกาสเข้าร่วมงานกับบริษัทที่เป็นสื่อการตลาดเพื่อระดมทุนให้กับมูลนิธิต่างๆ ซึ่งมันไม่ใช่แค่งาน แต่มันคือความฝันของฉันเลย เพราะฉันมาถึงจุดนี้ได้เนื่องจากมีทุนการศึกษาต่างๆจากมูลนิธิ ทำให้ฉันไม่ลังเลที่จะทำ ไม่ว่ามีงานได้เงินดีกว่านี้ แต่ไม่มีงานไหนที่เราจะได้ช่วยเหลือสังคม รวมถึงช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวได้ ซึ่งฉันเพิ่งรู้ว่า เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เราคิด เราฝันมาตลอดนั้น มันรู้สึกดีแค่ไหน? ฉันได้แต่ภาวนากับพระเจ้าให้ช่วยเหลือทุกคนบนโลก ให้เขาอยู่อย่างมีความสุข เข้าถึงการแพทย์ แต่แล้ววันนี้และจากนี้เป็นต้นไป ฉันทำได้ทั้งภาวนา ลงแรง และหากฉันมีเงินพอ ฉันก็จะแบ่งปันต่อไป
ฉันมีความคิด มีอุดมการณ์ มีทัศนคติในการมองโลกที่หลายคนบอกว่า มันเป็นโลกในอุดมคติ ซึ่งฉันได้เรียนรู้ว่ามันจริงแบบที่เขาพูด
โลกไม่ได้สวยงามเสมอไป แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ก็จะไม่มีความงดงามสักมุมให้คนได้พึ่งพิง
สิ่งที่ฉันคิดเสมอ คือ ทุกคนคือสีสันของโลก