
ปลายนิ้วข้างถนัดเกี่ยวหูแก้วกาแฟขึ้นดื่ม พลางขยับแว่นที่บดบังใบหน้า ณ ร้านกาแฟแห่งนี้ ตำแหน่งที่นั่งเยื่องกับคู่ชายหญิงที่นั่งคู่กัน
ทั่งสองพูดคุยกันสนุกสนาน พลางยิ้มไปด้วย ดูแล้วเป็นบรรยายกาศของคู่รักที่ออกมาเดทในวันสุดสัปดาห์ ทั้งร้านอบอวลไปด้วยความรัก เนื่องจากวันนี้เป็นวันแห่งความรัก 14 กุมภา
นั่งได้ไม่นานทั้งคู่ตัดสินใจออกจากร้านและเป็นฉันเองที่ลุกขึ้นตามพวกเขาทั้งสองไปเงียบๆ
ระยะห่างของการเดินตามไม่ถือว่าประชันชิดเกินไป เว้นวรรคไว้พอสมควรหรือทั้งคู่อาจจะไม่รู้ว่ามีคนเดินตามก็เป็นได้
แล้วทั้งสองก็แวะเข้าไปดูหนังแนวสยองขวัญ ฉันเองก็ตามเข้าไปดูเช่นกัน เลือกทั้งที่สูงกว่าทั้งคู่ห่างกันประมาณสองเเถว ทำให้ทั้งคู่ได้ชัดเจน
เมื่อหนังเริ่มขึ้นได้สักพักมีฉากที่ทำให้ตกใจ ฝ่ายชายจะคอยปลอบและดูแลฝ่ายหญิง มือเลื่อนหยิบป๊อบคอนคนขวามากินเเบบที่เขาไม่รู้ตัว
หนังจบทั้งคู่ออกจากโรงหนัง เป็นช่วงเวลาเย็นพอดีแต่ว่ากลับมืดผิดปกติ ทั้งคู่เดินไปได้สักพัก ปรากฏฝนเม็ดใหญ่กระหน่ำตกลงมา ฝ่ายหญิงอาสาเป็นคนวิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อร่มมาหนึ่งคัน
ทั้งชายและหญิงต่างตกในภวังค์ของความรักใต้น้ำฝน ทั้งสองเดินเคียงคู่กันผ่านตึกช่องราต่างๆ โดยไม่สนว่าโลกนี้จะมีใครอีก ขอเเค่พวกเขามีกันเเละกัน ส่วนตัวฉันเดินตามไปอีกเช่นเคย เม็ดฝนตกหนักแต่ร่างกายไม่มีเปียก ราวกับมันทะลุผ่านร่างฉันไป
ชายหนุ่มเดินมาส่งหญิงสาวถึงหน้าบ้าน ทั้งคู่ส่งยิ้มอำลาโบกมือลา หญิงสาวเดินเข้าบ้านไป จากนั้นเขาจึงเดินกลับในเส้นทางกลับบ้านของเขาเช่นกันและเดินตามอีกเช่นเคย
เดินห่างจากหน้าบ้านหญิงสาวได้สักพัก ชายหนุ่มเลือกที่จะหยุดเดิน หันกลับมาทางด้านหลัง
เขาเห็นฉันที่เดินตามเขามา...ตั้งเเต่เเรก
สายตาของเขาบ่งบอกว่าเขามองเห็นฉันทุกก้าวขณะเดินไม่ว่าจะทำอะไร ใช่ เขารู้ตั้งเเต่เเรก...
"เดินมาอยู่ในร่มสิ..."
"..." เมื่อเห็นว่าฉันไม่ขยับปลายเท้าเดินเข้าไปใกล้ เขาจึงเป็นคนก้าวเข้ามาหาฉัน และยื่นร่มนั้นให้ฉันมีพื่นที่
"อยู่ตรงนั้นมันจะเปียกนะ" เขาส่งยิ้มหวานมาให้ ในใจฉันได้รับยิ้มหวานของเขามาหลายครั้งเเล้ว เเต่ในครั้งนี้มันช่างหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง
"ไปกันเถอะ"
เราสองคนเดินคู่กันท่ามกลางสายฝนที่ยังตกไม่ส่าง แม้เราจะไม่ได้จับมือเหมือนผู้หญิงคนนั้น แต่เเค่นี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากยิ่งขึ้น
Written in this book
short story เรื่องสั้น