
ตัดไปซะ
เรามีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง
เรียกได้ว่าสนิทที่สุดเลยก็ได้
แม้ว่าจะเพิ่งมาเจอกันช่วงตอนเรียนมหาลัย
ไม่ได้คบมาตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม หรือยาวนานเท่ากับคนอื่นๆ
ถึงอย่างนั้น กลับอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด
เปิดเผยความรู้สึกให้เห็นได้มากที่สุด
รู้สึกเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด
แม้ว่าเพื่อนคนนี้อาจจะไม่ได้เก่งที่สุดหรือดีที่สุดก็ตาม
แต่ก็สัมผัสได้ว่าคนคนนี้เข้ากันกับเราได้ดีที่สุดแล้ว
แต่ยิ่งเติบโตขึ้น ต่างคนต่างต้องแบกรับภารกิจ มีสารพัดเรื่องที่ต้องทำ หน้าที่การงานที่ทิ้งไม่ได้
เวลาที่จะว่างมาเจอกันก็ลดลงไป
ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความเป็นเพื่อนของเรา
เรายังแชทคุยกัน คอลหากัน ติดต่อหากันอยู่เสมอ ตามแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย
และแน่นอนว่าเราต่างคว้าโอกาสเหล่านั้นเอาไว้ทุกครั้ง
รวมไปถึงโอกาสครั้งสำคัญ
ครั้งหนึ่งในชีวิตของนิสิตนักศึกษา
รับปริญญา
แน่นอนว่าเราเหมาหมดทุกสิ่งอย่างที่จะสามารถมีส่วนร่วมกับความทรงจำครั้งสำคัญของเพื่อนได้
ทั้งไปร่วมเฟรมถ่ายรูปเป็นวันๆ
อดหลับอดนอนทำของขวัญทำมือ
แต่งหน้าทำผมให้ในวันจริงเพื่อเพื่อนจะต้องดูดีที่สุด
เรามีความสุข ที่ได้ทำให้
เราดีใจ ยินดีมากๆ กับความสำเร็จของเพื่อน
เราน่าจะรู้สึกแค่นั้น
แต่เราก็รู้สึก ความรู้สึกที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น
เราน้อยใจ ที่เพื่อนไม่บอกเราว่าเริ่มต้นความรักครั้งใหม่...มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว
ที่รู้ เพราะรู้สึกได้เอง ว่าคนที่มาเป็นตากล้องของเพื่อน ดูแลเพื่อนดีเป็นพิเศษ
เราโกรธ เพราะรับปากไว้แล้วว่าจะส่งรูปมาให้เรา แต่จนถึงวันนี้ เราไม่เคยได้เห็นรูปมากมายที่ถ่ายเอาไว้เลย จนเราเลิกถามถึงไปแล้ว
เราเสียใจ ทำไม?
เพราะเพื่อน หรือเพราะตัวเราเอง
แน่นอนตอนนั้นมีความรู้สึกด้านลบเกิดขึ้นมากมาย แต่เราเลือกที่จะเก็บมันไว้
เรายิ้ม ทำตัวเป็นปกติ
ไม่ปล่อยให้ใครก็ตามรับรู้ถึงความรู้สึกพวกนี้นอกจากตัวเราเอง
เพราะเรายังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองดีนัก
เราเลยตัดสินใจเก็บมันเอาไว้
นานพอ จนกระทั่งความคิดสามารถวิ่งตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ทัน
เรารู้สึกตัวจนได้
ที่รู้สึกน้อยใจ เพราะเราคาดหวังไปเองว่าเราต้องสำคัญที่สุด จนคิดว่าเพื่อนต้องบอกเราไปซะทุกสิ่งอย่างเป็นคนแรกเสมอ
ซึ่งในความเป็นจริง เราไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
เพื่อนสนิทถึงจะสนิทแค่ไหน ก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง เขามีสิทธิเลือกที่จะเล่าหรือไม่เล่าอะไรให้ใครฟังก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวแบบนี้
อันที่จริงแค่นี้เพื่อนก็ยอมให้เราเข้าไปในพื้นที่ชีวิตของเขามากพออยู่แล้วไม่ใช่หรือ
ที่รู้สึกโกรธ เพราะไม่ได้สิ่งในที่อยากได้ ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของเพื่อน เขามีสิทธิที่จะส่งรูปหรือไม่ส่งรูปมาก็ได้ แล้วไง ไม่ได้เห็นก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีอยู่
อันที่จริง แค่ได้เข้าไปอยู่ในรูปเพียงแค่ใบสองใบก็น่าดีใจแล้ว
ที่เสียใจ ก็เพราะไปคาดหวังเอง ผิดหวังเอง แล้วก็พาเอาความรู้สึกมาพาลกับเพื่อนเอง ทั้งๆ ที่เพื่อนไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย
พอรู้ตัว ก็ต้องดึงตัวเองกลับ
กลับมาสู่ความเป็นเพื่อนในสภาวะความจริงที่ไม่ใช่การคาดหวังไปเอง
ตัดความคาดหวังออกไปให้หมด
แล้วใจของเราจะมีพื้นที่มากพอ ที่จะมองเห็นความจริงที่อยู่ตรงหน้าได้อีกครั้ง
ความจริงที่ถูกหมอกควันที่ชื่อว่าความคาดหวังมาบดบังเอาไว้
ว่าเพื่อนสนิทของเราคนนี้แม้ไม่ได้ดีที่สุด
แต่ก็ดีที่สุดแล้วสำหรับเรา
รัก.
เพื่อนรัก.
Written in this book
รู้สึก.ก็เขียน.