คือ ก่อนออกจากบ้านแยกประเป๋าใหม่ที่รวมบัตรกับเงินสดไว้ เพราะกระเป๋าตังเป็นหนังหนักและมีการ์ดส่วนลดเยอะ มีปัญหาปวดบ่าอยู่เป็นทุนเลยอยากทำให้ทุกอย่างดูเบา...
พอยื่นเงินให้วินปั๊ป จะหยิบบัตรบีทีเอส เอ้ยยยยย ลูปไปทุกส่วนของตัวและกระเป๋า อ่าวแยกไว้แล้วลืม ฉันจะทำยังไงไม่มีตังสักบาท ออกจากบ้านมาแล้ว
คิดช้อย
1. ยอมเดินกลับบ้านไปหยิบกระเป๋าตัง ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที + ไม่ได้ทาครีมกันแดด จะผิวถูกยูวี แล้วก็เมือกๆไปหาลูกค้า อื่ม.....
2.ฉันจะไม่ยอมหวะ กว่าจะเดินไปนั่งวินเสียมาอีกรอบ มันต้องมีวิธีดิ แอพพลิเคชั่นอันเลื่องชื่อเรื่องการโอนเงินก็ลอยขึ้นมา นี่ไงก็ไปขอความช่วยเหลือน้องที่เค้าเตอร์บีทีเอสโอนเงินผ่านแอพแลกขอเงินสดกลับมา แกแต่แกเป็นใครวะ เขาจะให้ไหม หน้าบางอีกกกกก
เอาว่ะ ถามไปก่อนก็ไม่เสียหายไร ไม่ได้ก็ไม่ได้ก็เบอร์1
สรุป ขอบพระคุณแอพพลิเคชั่น เราก็ได้เงินสดมา โชคดีที่มีแอพ สังคมไร้เงินสดติดตัวหาเงินสดนอกบ้านได้จ้ะ แต่ก็ต้องมีความน่าเชื่อถืออะ ตอนแรกเขาก็กลัวเราหลอกอยู่น่ะ
สิ่งที่ได้คือ
1.รู้เลยว่าค่าคลองชีพสูงสัดๆ(ขออนุญาติหยาบ) วันนี้ใช้เงินไป500 บาท เพราะเสียเต็มๆกับค่าบัตรบีทีเอสที่ไม่ได้เป็นเที่ยวเหมา ไปกลับก็เท่าไหร่ไหนจะใต้ดินอีก รวมๆนี้200 บาทเลยย
1.รู้เลยว่าค่าคลองชีพสูงสัดๆ(ขออนุญาติหยาบ) วันนี้ใช้เงินไป500 บาท เพราะเสียเต็มๆกับค่าบัตรบีทีเอสที่ไม่ได้เป็นเที่ยวเหมา ไปกลับก็เท่าไหร่ไหนจะใต้ดินอีก รวมๆนี้200 บาทเลยย
2.ฉันวางแผนต้องเหลือเงินไม่งั้นเด่วกลับบ้านไม่ได้ เห็นตัวเองเลยอะ ตามใจตัวเอง อยากกินอะไรก็กิน ซื้ออะไรก็ซื้อแค่เลือกถูกไว้ก่อน ควรกลับมาทบทวนบัญชีรายวันของตัวเองมากๆ และตั้งใจว่าจะไม่ซื้อจุกจิก สรุปเผลอซื้อ ขนม นำ้หวานไป40บาทจนได้ ทั้งที่ตั้งใจไว้ว่าเธอต้องมีสติไม่กินขนมเด่วเงินไม่เหลือกลับบ้าน กับกันใช้จ่ายกระทันหันระหว่างทางอีกเพราะไม่มีบัตรเครดิต
3.เราใช้ชีวิตชะล่าใจ เหมือนแบบมีบัตรก็มีทุกอย่าง ลืมเลยถ้าไม่พกก็ไม่เหลืออะไรเลยนะ
4.วัดใจหน้าบาง ไม่ได้เงินนะ