
ปุ่มเลิกเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คเป็นสิ่งที่ฉันกดเวลารู้สึกไม่อยากสานสัมพันธ์ต่อกับใครคนนั้น หลายครั้งมันถูกกดด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง บางครั้งเป็นอารมณ์ชั่ววูบ และส่วนหนึ่งที่ฉันเลือกจะกดมันเพราะฉันไม่อยากเข้าไปส่องหน้าเฟสของเธอคนนั้นอีก ไม่อยากการต้องมารับรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ครั้งใหม่
จนกระทั่งเมื่อวาน วันที่ 2/08/60 ฉันถูกลบเพื่อนจากใครอีกคน
ความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างซับซ้อน เอาเป็นคำอธิบายสั้นๆแล้วกันว่า
'มันไม่ชัดเจน'
ใช่แล้ว ในใจลึกๆเราต่างรู้สึกชอบกันและกันแต่ก็ไม่พูดมันออกมา ส่วนหนึ่งที่ฉันไม่ยอมพูดเพราะเธอมีแฟนแล้ว ถึงแม้จะบอกฉันว่าเธอต้องคบเพราะเหตุผลบางอย่างและตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไร (ในตอนนั้นอะนะ)
"ฉันเชื่อเธอนะ และก็เชื่อสิ่งที่เห็นด้วย"
สเตตัสหน้าเฟสเกือบทุกสเตตัส หรือจะรูปภาพสวีท มันค่อนข้างเป็นคำตอบให้ฉันโดยไม่ต้องทักไปถามใดๆ
ความจริงเราคุยกันมาก่อนที่เธอจะไปตั้งคบกับใครเสียอีก แต่ด้วยความงี่เง่าของเราทำให้ต้องเทกันไปถึงสองครั้งกลายเป็นช่องทางให้เธอไปคยกับเขา ฉันจำได้ดีวินาทีนั้นมันค่อนข้างเสียความรู้สึก ฉันตัดสินใจกดลบและบล๊อคทันที
หลังจากนั้นฉันเดินหน้าต่อ ทำใจให้ลืมเธอไป มันก็แค่ช่วงเวลาเกือบๆสองเดือนเอง มันก็แค่สถานะคนคุย เวลาผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ฉันเริ่มทำใจได้ คิดว่าบล๊อคไปก็เท่านั้นเอาออกเถอะแล้วต่างคนต่างอยู่ไป
หลังจากนั้นสองสามวัน เธอปรากฏตัวอีกครั้งด้วยการมากดไลค์หน้าเฟส ฉันจึงไปไลค์กลับนึกสงสัยในใจ
"เป็นไงบ้างหายไปเลย"
ไม่นานเธอทักมา นั่นสร้างความแปลกให้ฉันไม่น้อยเลย ตลอดเวลาที่คุยกันมาฉันรู้สึกตลอดว่าเธอไม่ได้สนใจอะไรกันมากมายนัก จะกลายเป็นฉันที่เอาแต่พิมทักเธอไป ตามจี้เธอมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่วันนี้พึ่งมารู้ว่าเธอเองก็แอบมาส่องหน้าเฟสกัน (แต่ก็คิดแหละว่าคงไม่ใช่กับเราคนเดียว)
"ก็สบายดีนะเหมือนเดิมๆแหละ"
เรากลับมาคุยกันหลังจากนั้น เธอบอกฉันว่าที่ต้องตั้งคบคนนั้นเพราะอยากหนีแฟนเก่า พร้อมพูดขอโทษยังบอกอีกว่ารู้หรอกฉันไม่โอเค นาทีนั้นจะว่ารู้สึกสำคัญขึ้นมาแต่ก็ยังไงอยู่ เพราะตอนนี้ความรู้สึกฉันเองกลับไม่เหลือเท่าเดิมแล้ว
เธอแอดเพื่อนฉันมาอีกครั้ง เรากลับมาคุยกันในสถานะคนคุย(ที่ไม่หวังว่ามันจะพัฒนาสถานะได้) อันนี้จากความรู้สึกฉันเอง
'เธอมีแฟนแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร มันทำให้ฉันเลิกคาดหวัง และแม้ว่าตอนนี้ยังไม่รู้สึกอะไรแต่ฉันเชื่อว่าวันข้างหน้าเธอต้องรู้สึกแน่ๆกับคนของเธอ' นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด
หลังจากนั้นเราคุยกันได้หลายๆเรื่องและเธอรู้สึกสบายใจเมื่อได้พูดกับฉัน ส่วนตัวฉันเองก็รู้สึกดีที่มีคนคุย มันก็สบายใจแหละแต่ในใจก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
เวลาผ่านไปเราคุยกันบ้างไม่คุยกันบ้าง บางทีก็หายไปเป็นวันหรือเกือบอาทิตย์ แต่ฉันเห็นเธอผ่านหน้าเฟสตลอด แน่นอนมันมีทุกอย่างที่หน้าเฟสของเธอ และบางอย่างที่เห็นมันทำให้ฉันเลือกจะนิ่งเฉย ไม่ทักเธอไปเสียดีกว่า
กระทั่งวันหนึ่ง เธอทนไม่ไหวและเริ่มถามคำถามหนึ่งกับฉัน
"ถามอะไรหน่อยสิ นี่คิดยังไงกับเค้าเหรอ"
ความจริงมันมีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วถ้ามองจากเหตุผล แต่ในด้านความรู้สึกกลับเลือกที่จะไม่พูดออกไป ฉันกลับอยากมีเธอไว้แบบนี้มากกว่า
"เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ความจริงถ้าเป็นคนอื่นคงเลิกคุยไปแล้วแหละ เพราะเค้าไม่ยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้ว แต่ถ้าเทียบกับครั้งแรกที่เราคุยกันความรู้สึกเค้าก็ลดลงนะ เพราะก็ผ่านอะไรหลายอย่างมาเยอะอยู่"
"อื้ม ขอบคุณน้า"
"แล้วตัวละ รู้สึกยังไง อยากชัดเจนหรือเปล่าบอกได้นะ"
"เค้ารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับตัวนะ ไม่รู้ดิ่ให้เป็นเพื่อนเค้าก็ทำไม่ได้ แต่ให้มากกว่านี้มันก็ผิด เค้าก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน"
หลังจากนั้นมันก็จบลงด้วยสถานะที่ไม่เข้าใจ
แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายๆอย่างกลับเพิ่มมากขึ้น ฉันมักถามเธอถึงแฟนของเธอบ่อยๆ
"อ่าวแฟนไปไหนแล้วละ อ่าวไม่คุยกับแฟนเหรอ"
มันอาจดูน่ารำคานแต่ความจริงฉันพูดถึงเพื่อย้ำตัวเองไม่ให้รู้สึกมากไปกว่านี้ ถึงแม้ความรู้สึกมันจะลดลงกว่าครั้งแรก แต่หากปล่อยไว้ก็เป็นอันตรายหันกลับมาทำร้ายเราได้เช่นกัน
เธอเองก็ดูไม่ค่อยพอใจนักที่พูดถึง
จนเวลาล่วงเลยผ่านมานานมากขึ้น มากขึ้น สิ่งที่เธอพูดกับสิ่งที่ฉันเห็นเริ่มต่างกันมากเกินไป และฉันเองไม่ค่อยโอเคกับคำพูดที่ไม่จริงเท่าไหร่
ถ้อยคำมากมาย รูปถ่าย ตรงหน้ากลับชัดเจนมากขึ้นๆไปอีก
"ถ้าเธอและเขายังรักกันอยู่ขนาดนี้ ฉันเองก็ควรจะหยุดและถอยออกมาดีกว่า"
สถานะมือที่สามไม่ใช่สิ่งที่ใครๆอยากเป็น โดยเฉพาะฉันคนที่เคยโดนแฟนเก่านอกใจมากก่อนและเคยเผลอทำพลาดไปเป็นมือที่สามสมัยมอ.ปลาย นั่นทำให้ฉันบอกกับตัวเองมาตลอดว่าจะต้องไม่พลาดทำแบบนั้นอีก
ฉันตัดสินใจหยุด และตั้งสเตตัสชัดเจนว่าไม่อยากไปเป็นมือที่สามของใครนะทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ จากนั้นเราก็ต่างคนต่างอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่มีใครทักใครไป
นาทีนั้นฉันคิดว่าฉันทำได้
ตลอดที่คุยกันฉันเซฟความรู้สึกตัวเองมาตลอด แต่ฉันคิดผิด ในเรื่องของความรู้สึกนั้นมันถลำลึกมาแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่มันมากพอให้ฉันรู้สึก คิดถึง ขึ้นมา
ความคิดถึง เป็นอันตรายกว่าความเหงาเสียอีก
ยามเราเหงา หาอะไรทำไปเรื่อยๆมันก็ดีขึ้นเอง แต่ความคิดถึงนี่สิ ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็ยังคิดถึงคนคนนั้น
ฉันรู้สึกคิดเธอขึ้นมา จนจุดหนึ่งทนไม่ไหวจึงแสดงออกจากสเตตัสหน้าเฟส ยอมรับนะว่าฉันไม่ควรทำ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่เข้าใจตัวเลยว่าทำไม และมันก็ได้ผล
เหมือนเธอจะรับรู้สิ่งที่ฉันต้องการสื่อแต่ก็แฝงไปด้วยความไม่เข้าใจว่าใครกันที่ฉันพูดถึง ในขณะที่ฉันเองก็ได้แต่เดาว่าคนที่เธอพูดถึงคือฉันผ่านหน้าเฟส
เราเล่นเกมส์ทายใจผ่านสเตตัสหน้าเฟสบุ๊คกันสองวัน จะบอกว่าเป็นเหตุการณ์ที่ชวนมโน ชวนคิดกันไปเองก็ว่าได้
"เพิ่มเพื่อน"
จนกระทั่งฉันเปิดมาหน้าเฟสของตัวเองปกติ และเห็นเธอหายไปจากรายชื่อเพื่อนของฉัน ลางสังหรบางอย่างเกิดขึ้น ฉันกดเข้าไปหน้าเฟสของเธอทันทีและใช่เลย เธอลบฉันออกไปแล้ว จากปุ่มเพื่อนกลายเป็นปุ่มเพิ่มเพื่อนแทน
ใจหายแปลกๆที่เธอเลือกจะลบกันทิ้งไป ทั้งๆที่เข้าใจมากตลอดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นอีก อย่างน้อยเราก็ต่างคนต่างอยู่กันไป แอบคิดนะว่าอาจจะปีหนึ่งข้างหน้าเราอาจจะกลับมาคุยกันในสถานะเพื่อนได้เต็มปากแล้ว แต่วันนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นนี่สิ
เมื่อลบเพื่อนไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเราจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกไหม กาลเวลามันอาจทำให้ฉันหายไปจากเธอสักวัน และทำให้เธอหายไปจากฉันสักวัน
ปุ่มลบเพื่อนมันมีอิทธิพลมากนะโดยเฉพาะกับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน
แค่อยากบันทึกเรื่องราวเอาไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้น