
เป็นอีกครั้งที่หยิบหนังที่ดูแล้ว กลับมานั่งดูซ้ำ...ราวกับอยากซึมซับบางสิ่งบางอย่างที่ยังคงมีอยู่ในทุกภาพเคลื่อนไหวนั้น
ลา ลา แลนด์ สำหรับความรู้สึกที่ได้ดูครั้งแรกนั้นเหมือนเอาภาพการ์ตูนเพลงในโทรทัศน์มาถ่ายทอดในรูปแบบของคนแสดง มันแตกต่างจากการที่หยิบเรื่องราวเจ้าหญิงดิสนี่ย์มาแสดงโดยสิ้นเชิง...
เหมือนละครเพลงที่เหล่าเรื่องราวอย่างปรานีต เข้าใจง่าย ละมุนละไม ความรู้สึกที่นั่งดูในโรงตอนนั้นมันเหมือนว่านักแสดงในเรื่องเป็นตัวการ์ตูนที่เคลื่อนไหวอย่างลื่นไหล พร้อมดนตรีที่ลงตัวกับความรู้สึกเหลือเกิน 🎶
ขอบคุณตอนจบที่บีบครั้นอารมณ์ได้ดี และจงใจขยี้จนฉุดความความรู้สึกให้รับรู้ว่านี่คือภาพยนต์ที่มีความเรียลกว่าการ์ตูนเพลงเด็กๆ เป็นไหน...🥀
อาจเพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังรักรึเปล่านะ??...การดูหนังรักในครั้งถัดมาจึงได้เงียบเหงาเหลือเกิน...
การดูหนังคนเดียวอาจไม่ได้มีปัญหา แต่การดูหนังรักคนเดียวในโรงมันกับเหงาจนไม่สามารถสนใจเพียงเนื้อเรื่องได้อีก...
จริงๆ แล้วตอนนี้อาจเป็นช่วงสุดท้ายของเรื่องแล้วก็เป็นได้ ตอนสุดท้ายแล้วที่พระเอกออกมานั่งเล่นเปียโน...
ลา ลา แลนด์ สำหรับความรู้สึกที่ได้ดูครั้งแรกนั้นเหมือนเอาภาพการ์ตูนเพลงในโทรทัศน์มาถ่ายทอดในรูปแบบของคนแสดง มันแตกต่างจากการที่หยิบเรื่องราวเจ้าหญิงดิสนี่ย์มาแสดงโดยสิ้นเชิง...
เหมือนละครเพลงที่เหล่าเรื่องราวอย่างปรานีต เข้าใจง่าย ละมุนละไม ความรู้สึกที่นั่งดูในโรงตอนนั้นมันเหมือนว่านักแสดงในเรื่องเป็นตัวการ์ตูนที่เคลื่อนไหวอย่างลื่นไหล พร้อมดนตรีที่ลงตัวกับความรู้สึกเหลือเกิน 🎶
ขอบคุณตอนจบที่บีบครั้นอารมณ์ได้ดี และจงใจขยี้จนฉุดความความรู้สึกให้รับรู้ว่านี่คือภาพยนต์ที่มีความเรียลกว่าการ์ตูนเพลงเด็กๆ เป็นไหน...🥀
หากเพียงแต่การนั่งดูในครั้งนี้...มันพาให้คิดถึงภาพคนๆ นึงขึ้นมาตลอดที่หนังเรื่องนี้ยังคงดำเนินไป...
อาจเพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังรักรึเปล่านะ??...การดูหนังรักในครั้งถัดมาจึงได้เงียบเหงาเหลือเกิน...
การดูหนังคนเดียวอาจไม่ได้มีปัญหา แต่การดูหนังรักคนเดียวในโรงมันกับเหงาจนไม่สามารถสนใจเพียงเนื้อเรื่องได้อีก...
จริงๆ แล้วตอนนี้อาจเป็นช่วงสุดท้ายของเรื่องแล้วก็เป็นได้ ตอนสุดท้ายแล้วที่พระเอกออกมานั่งเล่นเปียโน...