
"ถามจริงๆ พร้อมจะแต่งงานแล้วเหรอ"
Image Cr. ReadUnwritten.com
"ไม่รู้สิ"
"รักเขารึเปล่า"
"ก็มาถึงขนาดนี้แล้วอ่ะ"
วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมงานมงคลสมรสเช้าตามพิธีแบบไทยเป็นครั้งแรกในชีวิต
ได้เห็นความชื่นบานของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
ท่ามกลางการร่วมมือและขัดแย้งกันเล็กๆน้อยๆ แบ่งรับแบ่งสู้กันไป
ได้เห็นความภาคภูมิใจของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
ท่ามกลางคำยินดีและอวยพรของแขกผู้ใหญ่ที่นับหน้าถือตากันในสายงาน
มันก็รู้สึกแปลกๆ ออกไปทางดีแฮะ
ได้เห็นพิธีกรรมต่างๆมากมายที่เคยคิดว่ามันยุ่งยาก
แล้วมันก็ดูยุ่งยากกว่าที่คิดจริงๆด้วย ฮาาาาาาาาาาา
อาจเพราะยังไม่เคยได้มีโอกาสมาเห็นของจริงแบบนี้มาก่อน
ทำให้มายาคติเกี่ยวกับการแต่งงานตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
แต่เดิม... เคยชินกับการรอกินโต๊ะจีนระหว่างประธานกล่าวเปิดงาน
ยื่นซอง รับของชำร่วย นั่งดูวิดีโอพรีเซ้นท์ และส่งตัวเข้าหอ เพียงแค่นี้
มายาคติเกี่ยวกับการแต่งงานในตอนนั้นจึงดูเลือนรางและไกลตัวออกไป
ระหว่างที่ยืนรอขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวเคลื่อนขบวน
ผ่านด่านประตูเงินประตูทองเข้ามาด่านแล้วด่านเล่า
ตัวฉันตอนที่ยืนถือประตูเงินประตูทองเป็นด่านสุดท้าย
ก็เผลอคิดในใจว่า เร็วจังแฮะ ถ้านี่เป็นงานแต่งของฉันเอง
เจ้าบ่าวของฉันไม่มีทางหลุดเข้ามาง่ายๆแบบนี้แน่
แก๊งค์เพื่อนๆของฉันคงงัดเอาบททดสอบบ้าๆบอๆมาให้เขาทำแน่นอน
บ้าจริง นี่เราเกิดอยากแต่งงานขึ้นมารึยังไง? 5555555555+
"ถามจริงๆ พร้อมจะแต่งงานแล้วเหรอ"
"ไม่รู้สิ"
"รักเขารึเปล่า"
"ก็มาถึงขนาดนี้แล้วอ่ะ"
บทสนทนาที่เพื่อนคนนึงถามเจ้าสาวอย่างจริงจังในคืนก่อนวันแต่งงานนั้น
ดูเหมือนจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการออกมาจากปากเจ้าสาวเลย
ฉันแอบคิดว่า ทำไมล่ะ ทำไม?
ฉันไม่อยากเห็นเพื่อนหรือใครต้องแต่งงาน
โดยที่ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า 'พร้อม' หรือ ‘รัก’
ถ้าฉันจะแต่งงาน
นั่นหมายความว่าฉันพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างใครคนนั้นไปตลอด
และพร้อมจะรับเอาตัวและหัวใจของเขาไปดูแล โดยที่เขาก็ต้องการฉันเช่นกัน
ถ้าฉันยังตอบตัวเองไม่ได้ ฉันไม่แต่งหรอก!!!!!!!!!!
แต่ถึงจะไม่ได้คำตอบที่ควรได้จากเจ้าสาว เพื่อนของฉัน
งานแต่งงานในวันนี้ก็เป็นสิ่งที่เธอได้เลือกแล้ว
เธอจะมีเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
มันเรื่องของเธอมั้ย?
555555555+
อย่างน้อยวันนี้....
เพื่อนอย่างฉันก็ยินดีและดีใจที่ได้ทำอะไรเพื่อส่งเธอเดินไปอย่างสง่างาม
ยินดีกับเธอด้วยนะ ^-^
Image Cr. ReadUnwritten.com