
Mindset เรื่องเวลา
ในหนึ่งชีวิต คนเรามีเวลาใช้ชีวิตอยู่ได้ประมาณ 100 ปีเท่านั้น และกระแสของเงินก็มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราตั้งแต่เกิดจนตายจากโลกนี้ไป ถ้าไม่ใช่เงินที่ตัวเองหามาได้ก็ย่อมเป็นเงินของผู้อื่น
เราขอแบ่งเวลาในชีวิตออกเป็น 3 ช่วง
1.ช่วงแรก 24 ปี เริ่มจากแรกเกิดจนถึงอายุ 24 ปี เป็นช่วงที่เราใช้เงินคนอื่นนั่นคือเงินของพ่อแม่หรือญาติๆ
2.ช่วงที่สอง 36 ปีต่อมา อายุ 35-60 ปี เป็นช่วงที่เราหาเงินให้ตนเองใช้และให้คนอื่นๆในครอบครัวใช้
3.ช่วงที่สาม 36 ปีต่อมา อายุ 61-96 ปีโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีอายุยืนยาวแค่ไหน? เป็นช่วงที่เราใช้เงินตนเองหรือของผู้อื่นในครอบครัว หากเงินที่เราหามาได้มีไม่เพียงพอแก่การครองชีพ นอกจากนั้นอายุในช่วงนี้ยังเป็นเป็นช่วงเตรียมวางแผนส่งต่อมรดกให้กับทายาทอีกด้วย
เวลาประมาณ 36 ปีของการทำงานในช่วงที่ 2 นี้เป็นระยะเวลาที่สำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเองเพื่อให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย และนี่จึงเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้ที่ใช้ชื่อว่า
"ชีวิตดี้ดีถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่อายุ 25:การเงินมั่งคั่ง"
เรามุ่งมั่นที่จะบอกเล่าถึงหลักการในการดำเนินชีวิตโดยมีแกนหลักอยู่ที่ "การเงิน" บวกกับการปฏิบัติตามหลักการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล รวมทั้งการเรียนรู้ ปรับปรุงจากประสพการณ์จริงให้เหมาะสม ผ่านช่วงเวลาแห่งการเลือกสร้างสรรค์ความสุข ความสำเร็จในชีวิตให้มีความสมดุล ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้มากน้อยเพียงใดนั้นก็อยู่ในช่วง "เวลาวันทำงานแท้จริง" ใน 36 ปีเป็นหลัก
ซึ่งเราพบว่าคนเรามีการหยุดพักการทำงานเฉลี่ย
-หยุดวันเสาร์/อาทิตย์ปีละ 96 วัน
-หยุดเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยวปีละ 10-14 วัน
-หยุดกรณีเจ็บป่วยหรือลาพักปีละ 5 วัน
โดยสรุปแล้วเราจะเหลือเวลาวันทำงานแท้จริงเพียงปีละ 250 วัน
และเมื่อเราเจาะลึกลงไปในแต่ละวันที่ทำงานก็จะพบว่า
-เราจะได้ทำงานแท้จริงอยู่ในระหว่าง 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นเราจึงมี "เวลาชั่วโมงทำงานแท้จริง" อยู่ราว ๆ 2,500 ชั่วโมงต่อปี ในช่วงอายุต่างๆ ตามตารางข้างล่างนี้จะระบุถึงเวลาทำงานตั้งแต่อายุนั้นๆ ไปจนถึงอายุ 60 ปี
ดังนั้นหากวันนี้คุณมีอายุ 30 ปี คุณมีเวลาทำงานอีก 30 ปีๆ ละ 250 วัน คุณมี "เวลาทำงานที่แท้จริง" อีก 7,500 วัน หรือ 75,000 ชั่วโมงเท่านั้นเอง!!
คุณทุ่มเททำงานอย่างมุ่งมั่นจริงจังแค่ไหน?ในแต่ละชั่วโมงทำงานของคุณ!!
นี่เป็นจิตสำนึกแรกๆ ของการเริ่มต้นมั่งคั่งร่ำรวย
"อยู่แบบพอเพียงต้องเตรียมให้เพียงพอ"
"ทำดี" เดินตามรอยเท้าพ่อ
เลือกตัวแทนที่ใช่เลือกLife Balanceที่ชอบ
MDRT IFA
ชำนาญ จองพิพัฒน์
รัตนา กมลงามพิพัฒน์
30/11/2559
ในหนึ่งชีวิต คนเรามีเวลาใช้ชีวิตอยู่ได้ประมาณ 100 ปีเท่านั้น และกระแสของเงินก็มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราตั้งแต่เกิดจนตายจากโลกนี้ไป ถ้าไม่ใช่เงินที่ตัวเองหามาได้ก็ย่อมเป็นเงินของผู้อื่น
เราขอแบ่งเวลาในชีวิตออกเป็น 3 ช่วง
1.ช่วงแรก 24 ปี เริ่มจากแรกเกิดจนถึงอายุ 24 ปี เป็นช่วงที่เราใช้เงินคนอื่นนั่นคือเงินของพ่อแม่หรือญาติๆ
2.ช่วงที่สอง 36 ปีต่อมา อายุ 35-60 ปี เป็นช่วงที่เราหาเงินให้ตนเองใช้และให้คนอื่นๆในครอบครัวใช้
3.ช่วงที่สาม 36 ปีต่อมา อายุ 61-96 ปีโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีอายุยืนยาวแค่ไหน? เป็นช่วงที่เราใช้เงินตนเองหรือของผู้อื่นในครอบครัว หากเงินที่เราหามาได้มีไม่เพียงพอแก่การครองชีพ นอกจากนั้นอายุในช่วงนี้ยังเป็นเป็นช่วงเตรียมวางแผนส่งต่อมรดกให้กับทายาทอีกด้วย
เวลาประมาณ 36 ปีของการทำงานในช่วงที่ 2 นี้เป็นระยะเวลาที่สำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเองเพื่อให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย และนี่จึงเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้ที่ใช้ชื่อว่า
"ชีวิตดี้ดีถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่อายุ 25:การเงินมั่งคั่ง"
เรามุ่งมั่นที่จะบอกเล่าถึงหลักการในการดำเนินชีวิตโดยมีแกนหลักอยู่ที่ "การเงิน" บวกกับการปฏิบัติตามหลักการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล รวมทั้งการเรียนรู้ ปรับปรุงจากประสพการณ์จริงให้เหมาะสม ผ่านช่วงเวลาแห่งการเลือกสร้างสรรค์ความสุข ความสำเร็จในชีวิตให้มีความสมดุล ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้มากน้อยเพียงใดนั้นก็อยู่ในช่วง "เวลาวันทำงานแท้จริง" ใน 36 ปีเป็นหลัก
ซึ่งเราพบว่าคนเรามีการหยุดพักการทำงานเฉลี่ย
-หยุดวันเสาร์/อาทิตย์ปีละ 96 วัน
-หยุดเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยวปีละ 10-14 วัน
-หยุดกรณีเจ็บป่วยหรือลาพักปีละ 5 วัน
โดยสรุปแล้วเราจะเหลือเวลาวันทำงานแท้จริงเพียงปีละ 250 วัน
และเมื่อเราเจาะลึกลงไปในแต่ละวันที่ทำงานก็จะพบว่า
-เราจะได้ทำงานแท้จริงอยู่ในระหว่าง 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นเราจึงมี "เวลาชั่วโมงทำงานแท้จริง" อยู่ราว ๆ 2,500 ชั่วโมงต่อปี ในช่วงอายุต่างๆ ตามตารางข้างล่างนี้จะระบุถึงเวลาทำงานตั้งแต่อายุนั้นๆ ไปจนถึงอายุ 60 ปี
ดังนั้นหากวันนี้คุณมีอายุ 30 ปี คุณมีเวลาทำงานอีก 30 ปีๆ ละ 250 วัน คุณมี "เวลาทำงานที่แท้จริง" อีก 7,500 วัน หรือ 75,000 ชั่วโมงเท่านั้นเอง!!
คุณทุ่มเททำงานอย่างมุ่งมั่นจริงจังแค่ไหน?ในแต่ละชั่วโมงทำงานของคุณ!!
นี่เป็นจิตสำนึกแรกๆ ของการเริ่มต้นมั่งคั่งร่ำรวย
"อยู่แบบพอเพียงต้องเตรียมให้เพียงพอ"
"ทำดี" เดินตามรอยเท้าพ่อ
เลือกตัวแทนที่ใช่เลือกLife Balanceที่ชอบ
MDRT IFA
ชำนาญ จองพิพัฒน์
รัตนา กมลงามพิพัฒน์
30/11/2559
Written in this book
ชีวิตดี้ดีถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่อายุ 25:การเงินมั่งคั่ง
Writer
ChamnanJ
MDRTiFA Coach ,Invester,Writer
Senior Distric Manager_TEAMCHART AIA
ผมจบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ในระดับปริญญาตรีและโทที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มีความสนใจพิเศษในด้านนิเทศศาสตร์และจิตวิทยา
เริ่มต้นทำงานในด้านการฝึกอบรมตัวแทนที่ AIA รวมทั้งฝ่ายบริหารตัวแทน
ตำแหน่งสุดท้ายคือผู้อำนวยการตัวแทน
เมื่อลาออกมาเป็นผู้บริหารทีมงานขายก็ได้ทำหน้าที่ด้านการฝึกอบรมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
จาก Trainnng Advisor,Premier Agency Trainning
งานในฐานะ Moderator เริ่มต้นเมื่อปี 2551 ในหลักสูตรของ Limra's Crossroad และ
โดยเฉพาะ Agency Management Trainning Course (AMTC 23 ครั้ง)
เมื่อมารับผิดชอบ Sales Builder ผมก็นำมาใช้กับกลุ่ม MDRT และประสบความสำเร็จอย่างมากที่เชียงใหม่
มีตัวแทน MDRT 3 คนในปีแรก 6,8,10 และ16 คนในปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันทำหน้าที่ผู้ดำเนินการสัมมนาหลักสูตร High Trust Financial Advisor
เพื่อมอบตัวแทนนักวางแผนการเงินอิสระให้สามารถช่วยลูกค้าได้อย่างเป็นมืออาชีพและมีจรรยาบรรณ
งานเขียนส่วนใหญ่เขียนจากประสบการณ์ตรงจากตนเองและประสบการณ์ของ คุณรัตนา กมลงามพิพัฒน์
7MDRT,FchFP,RFC ผู้ซึ่งมีอายุการทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินมากว่า 29ปี
และได้วางแผนการเงินส่วนบุคคลให้ลูกค้าแล้วจำนวนมาก
ได้รับรางวัล Prime Minister's insurance Award ติดต่อกัน 7ปี 2553-2558,2561
จากนายกรัฐมนตรีไทย (คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
ภาพประกอบการเขียนส่วนใหญ่นำมาจากอินเตอร์เน็ตขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
งานเขียนแรกเริ่มต้นเดือนเมษายนเป็นต้นมาในหนังสือที่ใช้ชื่อว่า
" สร้างนิสัย MDRT ได้ใน 10 สัปดาห์" และเดือนพฤศจิกายน
เรื่อง "การเงินมั่งคั่ง:ชีวิตดี๊ดีถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่อายุ 25"
โดยเป็นบทความเกี่ยวกับแนวคิด ความรู้สึกและนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จ
รวมทั้งทิปเกี่ยวกับการวางแผนการเงินส่วนบุคคลที่ทำได้จริงในภาคปฎิบัติ
หากเพื่อนๆ มีข้อแนะนำเชิญ Inbox มาได้เลยครับ
ขอขอบคุณผู้สร้าง Storylog และเหล่านักเขียนทั้งหลายที่สร้างที่ที่พวกเราได้มารู้จักกันผ่านตัวหนังสือ