
วันนั้นเป็นวันที่ฝนตก
เจ้ากระต่ายกำลังจดข้อความที่ได้ยินจากวิทยุ มันเป็นประโยคที่พูดว่า
"ฝนตกพรำๆ แล้วก็จะหยุดลงเมื่อพอใจ"
นักพยากรณ์ไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากสิ้นประโยคนั้น
เสียงเพลงจบรายการพยากรณ์ดังขึ้น พร้อมๆกับที่เจ้ากระต่ายกำลังสงสัยว่า
แล้วฝนจะพอใจเมื่อไร ? มันหวัง จะให้นักพยากรณ์กลับมาบอกวันเวลาที่แน่นอน
แต่ ไม่มีคำตอบอะไรอีกแล้วจริงๆ หลังจากประโยคนั้น
เจ้ากระต่ายรีบดึงแครอทขึ้นมาจากกระถางใกล้ๆมือ แล้วใช้ดินที่ติดกับปลายแหลมๆของเเครอท
จดข้อความนั้นลงในกระดาษ
นี่ คือประโยคที่มันไม่เข้าใจ
มันตั้งใจว่า เมื่อจดเสร็จเเล้ว จะกางร่มเดินไปหาลุงเต่าและถามดู
มันอยากจะรู้ให้แน่ๆว่า ฝนจะพอใจและหยุดตกเมื่อไหร่
ปกติ วันที่ฝนตก เจ้ากระต่ายจะอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น
เพราะมันเกลียดความเฉอะเเฉะ ที่จะทำให้ขนฟูๆของมันเปียกเเละลู่แนบไปกับตัว
ลุงเต่าน่าจะรู้แน่ๆ ว่าเมื่อไรฝนจะตกจนพอใจ
เจ้ากระต่ายคุ้ยหาเสื้อกันฝน ใส่รองเท้าบูธ แถมยังกางร่มอีกสองคัน
มันเดินกระย่องกระแย่ง ออกจากบ้านอย่างเชื่องช้า
ลุงเต่าครับ ลุงเต่า เจ้ากระต่ายร้องเรียกหาลุงเต่าตามแนวรั้วผักบุ้งหน้าบ้าน
ลุงเต่าครับ ลุงเต่า
ว่ายังไงพ่อกระต่าย ทำไมฝนตกคราวนี้ถึงได้ออกมาจากบ้านได้ล่ะ
ลุงครับ คือผมอยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่ฝนจะหยุดน่ะครับ
"ฝนตกพรำๆ แล้วก็จะหยุดลงเมื่อพอใจ" นักพยากรณ์บอกแบบนี้
ผมไม่เข้าใจครับ ผมคิดว่าลุงน่าจะรู้คำตอบ
อ่อ......นักพยากรณ์
ว่าแต่ พ่อกระต่ายวันนี้กินแครอทไปกี่หัวเเล้วล่ะ
กระต่าย : วันนี้สองครับ
เต่า : แล้วจะกินอีกไหม
กระต่าย : กินสิครับ
เต่า : แล้วจะกินอีกเยอะไหม
กระต่าย : เอ.....ผมไม่เเน่ใจนะครับ ปกติผมก็กินวันละ 6 หัว ถ้าหิวมากก็ 7 แต่ถ้าแครอทหัวใหญ่มากก็ 4 เอ........จะตอบยังไงดีล่ะครับ ก็กินจนกว่าผมจะรู้สึกอิ่มน่ะครับ
ความอิ่ม ก็คือความพอใจอย่างหนึ่งนะ
ลุงเต่าพูดจบก็หัวเราะเอิ้กอ้าก แล้วก็หันกลับไปเล็มผักบุ้งข้างรั้วต่ออย่างสบายใจ
ทำไมต้องตอบอะไรยากๆ
เจ้ากระต่ายส่ายหัวแล้วกลับเข้าบ้าน กินแครอทสองหัว แล้วนอนอ่านการ์ตูน
มันตั้งใจว่าคราวหน้า ถ้ามันต้องแลกการตากฝนกับการไปถามอะไรใครสักคน
มันจะโทรศัพท์ไปถาม สิริ